เอ็ค มหาเศรษฐีชาวสวีเดน จะร่วมมือกับ เธียร์รี่ อองรี, เดนนิส เบิร์กแคมป์ และ ปาทริค วิเอร่า สามตำนานในการขอซื้อกิจการ ‘กันเนอร์ส’ จาก สแตน โครเอนเก้ นักธุรกิจชาวอเมริกันด้วยมูลค่า 1.8 พันล้านปอนด์

ซึ่งแม้จะมีแถลงการณ์จาก โครเอนเก้ ว่าไม่คิดส่งผ่านกิจการนี้แก่ใคร แต่ เวนเกอร์ ฐานะร่วมสร้างความยิ่งใหญ่ให้ทีมมานานเกินสองทศวรรษก็ตื่นเต้นกับความพยายามของลูกศิษย์ลูกหาที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงทางที่ดีขึ้น 

“ผมชอบความจริงที่ว่าให้คนเก่าคนแก่ของสโมสรเป็นผู้ดำเนินกิจการของทีม” เวนเกอร์ กล่าวกับ ‘บีอิน สปอร์ตส์’

https://twitter.com/beINSPORTS_EN/status/1387111971615559682

“ยกตัวอย่าง 2 รูปแบบการบริหารสโมสรฟุตบอลบนโลกขณะนี้ อย่างแรกคือ บาเยิร์น มิวนิค ที่ขับเคลื่อนโดยอดีตผู้เล่น หรือมีนักลงทุนรายใหญ่มาคุมกิจการแบบ แมนฯ ซิตี้” 

“โดยส่วนตัวผมเป็นคนจากด้านของฟุตบอล เหมือนกับอดีตแข้ง อาร์เซน่อล ที่ร่วมเข้าเป็นทีมงานขอเทกโอเวอร์สโมสรและให้คำแนะนำ”

“โปรเจคต์นี้นับว่าคือข้อเสนอที่ดีสุดที่ควรทำดีกว่าปล่อยให้คนที่ไม่รู้สี่รู้แปดดำเนินกิจการ แค่มาซื้อทิ้งไว้แล้วก็ปล่อยตามมีตามเกิด” 

“ซึ่งเมื่อตัดสินใจประกาศตัว มันคือการปีนภูเขา ไม่มีใครอยากปล่อยให้พวกทุนใหม่เข้ามาแทรกแซง ก็ต้องพยายามให้ดีกว่าเดิมแล้วเมื่อการเทกฯกิจการสำเร็จ คุณได้เข้าบริหารก็สามารถเลือกบุคลากรร่วมงานที่ต้องการได้” 

“ผมยังคงสนับสนุน อาร์เซน่อล แล้วหากสามารถช่วยสโมสรได้ก็ทำมันแน่ไม่ว่าทางใด นอกเหนือจากนั้นผมก็มีความสุขดีกับชีวิตทุกวันนี้” 

การต่อสู้ในเชิงธุรกิจคงไม่สามารถเกิดขึ้นในชั่วข้ามวัน โดยต้องดูบทสรุปผลงาน ‘ปืนใหญ่’ ซีซั่นนี้รวมถึงการเสริมทัพในตลาดซัมเมอร์ หากทุกอย่างเป็นบวก ครอบครัวโครเอนเก้ ก็คงได้ครอบงำ อาร์เซน่อล ต่อไป 

แต่หากมือเปล่า, อดเตะฟุตบอลยุโรป และขาดการเสริมทัพที่ดี ก็มีสิทธิ์ถูกแฟนบอลกดดันจนต้องขาย