ดราม่าจากเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรประหว่าง ฮังการี ที่แพ้ต่อ อังกฤษ 0-4 วานนี้คงไม่จบง่ายๆเมื่อล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฮังการีออกมาทวีตปกป้องพฤติกรรมแฟนบอลตัวเองว่าไม่ได้ทำผิดอะไร เปรียบไปก็เหมือนตอนกองเชียร์สิงโตคำรามโห่ใส่เพลงชาติอิตาลี ในนัดชิงฯ ยูโร 2020
ควันหลงจากเกมที่ ปุสกัส อารีน่า แม้ 'สิงโตคำราม' คว้าสามคะแนนออกมาได้แต่ประเด็นเรื่องกองเชียร์เจ้าถิ่นโห่ใส่การคุกเข่าก่อนเขี่ยเริ่มเกมของอังกฤษ รวมถึงพฤติกรรมโห่ฮาป่า ขว้างสิ่งของลงสนามใส่นักเตะผิวดำฝั่งทีมเยือนนั้นทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) มองว่าล้ำเส้น จึงยื่นเรื่องให้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ตรวจสอบเตรียมคาดโทษต่อไป
ทว่าในมุมของรมต.ต่างประเทศฮังการี มิสเตอร์ พีเทอร์ ไซยาร์โท กลับมองว่านั่นอารมณ์ร่วมและการสร้างบรรยากาศคุกคามคู่แข่งของแฟนบอลเจ้าถิ่น เปรียบไปก็ไม่ต่างจากตอนกองเชียร์อังกฤษโห่ใส่การบรรเลงเพลงชาติอิตาลี ศึกชิงดำ ยูโร 2020 ณ สนามเวมลี่ย์เมื่อสองเดือนก่อน
"ผู้เล่นอังกฤษตำหนิบรรยากาศไม่รับแขกในบูดาเปสต์เกมแข่งวานนี้" รมต. ไซยาร์โทโพสต์คลิปการโห่ใส่เพลงชาติอิตาลีที่เวมบลี่ย์ สเตเดี้ยม ประกอบคำบรรยาย
"จากนี้คือวิดีโอซึ่งบันทึกจากสนาม เวมบลี่ย์ ก่อนนัดชิงฯ ยูโร ที่ผ่านมา ขณะบรรเลงเพลงชาติอิตาลี มีการโห่ฮา เป่าปากใส่อย่างกับอยู่ในคอนเสิร์ตโดยแฟนบอลอังกฤษ"
"พวกเขามองว่ามันก็เหมือนๆกันหรือเปล่า???"
ก็ต้องรอดูฟีดแบ็คจากทาง ฟีฟ่า ว่าวินิจฉัยเหตุการณ์วานนี้ออกมาแบบไหน โดยหากมองเป็นการเหยียดสีผิว/เชื้อชาติก็อาจลงโทษปรับเงิน รวมถึงห้ามแฟนบอลชมเกมเหย้าจำนวนกี่นัดก็ว่าไป
