บาร์เซโลน่า เปิดเผยผลประกอบการของฤดูกาล 2020-2021 ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อ 'โควิด-19' มียอดขาดทุนหลังหักภาษีแล้วมูลค่า 481 ล้านยูโร โดยมีรายรับตลอดปีอยู่ที่ 631 ล้านยูโร แต่มีรายจ่ายก้อนโตถึง 1,136 ล้านยูโร ตามรายงานจากมุนโด้เดปอร์ติโบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา 

ทีมอาซูลกราน่าเคยวางงบสำหรับฤดูกาลก่อนที่ 825 ล้านยูโรและคาดการณ์ว่าสโมสรจะมีกำไรหลังหักภาษีแล้วราว 1 ล้านยูโร จากการเทียบเคียงกับรายรับในฤดูกาล 2019-2020 ที่ลดลง 224 ล้านยูโร จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 855 ล้านยูโร ขณะที่รายจ่ายกลับพุ่งขึ้นจาก 955 ล้านยูโรเป็น 1,136 ล้านยูโร สูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร หลังเงินจำนวน 122 ล้านยูโรถูกนำไปลงทุนในการพัฒนาโครงการ 'เอสไป บาร์ซ่า' และการลงทุนพิเศษอื่นๆ

สำหรับฤดูกาลนี้ สโมสรคาดการณ์ว่าจะมีรายรับเพิ่มขึ้นเป็น 765 ล้านยูโร ในขณะที่สโมสรจะเปิด 'คัมป์ นู' รองรับแฟนบอลเต็มความจุสนาม รวมถึงมีเงินจากการสนับสนุนต่างๆทั้งการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และการซื้อสินค้าที่ระลึกของสโมสร

ส่วนกุญแจสำคัญในการปรับปรุงสถานะทางการเงินของสโมสรคือการลดต้นทุนลงเหลือ 784 ล้านยูโร สาเหตุหลักมาจากการปรับลดค่าจ้างนักเตะลงราว 31 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เป็นค่าจ้างของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ย้ายไปเซ็นสัญญา 2 ปีกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แบบไม่มีค่าตัวในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา 

บาร์เซโลน่า คาดการณ์ว่าสโมสรจะมีกำไรจากผลประกอบการในฤดูกาล 2021-2022 อย่างน้อย 19 ล้านยูโร โดย เฟร์ราน เรเบร์เตร์ ผู้อำนวยการทั่วไปของทีมอาซูลกราน่าเปิดเผยว่าสโมสรมีเงินสดในธนาคารราว 63 ล้านยูโร แต่มีหนี้สินค้างชำระสูงถึง 533 ล้านยูโร