สัญญาของ เซาธ์เกต จะสิ้นสุดลงหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ในช่วงปลายปีหน้า ทำให้ เอฟเอ ต้องการต่อสัญญาฉบับใหม่เพิ่มเติมอีก หลังจาก สิงโตคำราม จบอันดับ 4 เวิลด์คัพ 2018 และเป็นรองแชมป์ ยูโร 2020

อย่างไรก็ตาม เอฟเอ ทราบดีถึงความปรารถนาของ เซาธ์เกต ที่ยังคงติดค้างคาใจและต้องการพิสูจน์ฝีมือในการคุมทีมสโมสร หลังจากผลงานเดียวคือการคุมทีม มิดเดิลสโบรช์ ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกในปี 2009 แต่ก็ได้ เอฟเอ คอยอุ้มชูและเสนองานคุมทีมชาติชุดยู-21 ให้ในอีก 4 ปีต่อมา ก่อนก้าวขึ้นมาคุมทีมชาติชุดใหญ่ต่อจาก แซม อัลลาร์ไดซ์ ในปี 2016

"ผมคิดว่าผมได้พูดไปเมื่อเดือนก่อนแล้วว่าผมขอคุยเรื่องนั้นในช่วงปลายปี ผมต้องการมีสมาธิกับเกม และให้เวลากับการตัดสินใจที่ถูกต้อง หลังจากศึกยูโร มีอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ มากมาย มีความเหนื่อยล้าจากทัวร์นาเมนต์นั้น ผมต้องการทำให้แน่ใจว่าผมกำลังตัดสินใจถูกต้องด้วยเหตุผลที่เหมาะสม"

"การเจรจาเปิดกว้างมาก และ มาร์ค เบลลิงแฮม (ประธานบริหาร เอฟเอ) ให้การสนับสนุนอย่างแท้จริง แต่ผมรู้สึกว่างานนี้เป็นงานที่หนักจริงๆ การพาประเทศไปฟุตบอลโลกเป็นเรื่องที่สำคัญ เราสามารถมองเห็นทุกอย่างได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้" เซาธ์เกต กล่าว