ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ไบรท์ตัน 1 - แมนฯ ซิตี้ 4

สนาม : ดิ เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม

เริ่มเกมมานาทีที่ 7 ซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำจากการขึ้นเกมมาทางฝั่งซ้าย ที่ กรีลิช ก่อนจะจ่ายกลับมาให้ กานเซโล่ แตะเข้าขวาแล้วยิงหักข้อไปที่เสาแรก แต่ทาง ซานเชซ ยังพุ่งปัดออกหลังไปได้ 

หลังจากนั้นนาทีที่ 11 ทีมเยือนมีโอกาสอีกครั้งจากจังหวะโต้กลับเร็วที่ กุนโดกัน ลากบอลขึ้นมาก่อนจะจ่ายออกไปให้ เชซุส ทางขวาก่อนที่เจ้าตัวจะแปด้วยขวาบอลผ่านตัว ซานเชซ ไปแล้ว แต่ทาง ลูอิส ดังค์ ยังวิ่งกลับมาสกัดออกไปได้ 

แต่อีก 2 นาทีต่อมา เรือใบ ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ต่อบอลขึ้นมาก่อนจะมาเข้าทาง โฟเด้น ได้กดหน้าเขตโทษบอลไปติดบล็อกมาก่อนที่จะ ซานเชซ จะพยายามพุ่งไปรับบอลเช่นเดียวกับ เชซุส ที่วิ่งเข้าไปจะเล่นบอลทำให้ปะทะกัน แต่กรรมการไม่ให้ฟาวล์ทำให้บอลมาเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ตวัดมาให้ กุนโดกัน แปจ่อๆเข้าไป พอเช็คกับวีเออาร์แล้วทาง ผู้ตัดสินถือว่าจังหวะนี้เป็นประตู

ต่อมานาที 20 ซิตี้ มีโอกาสอีกครั้งจากการลากบอลขึ้นมาของ โฟเด้น ก่อนที่จะป้ายออกไปให้ กรีลิช ทางฝั่งซ้ายแล้วเจ้าตัวจ่ายไปให้ เชซุส ทางฝั่งขวาก่อนจะล็อกแล้วกดด้วยซ้ายแต่ทาง ซานเชซ ยังเซฟไว้ได้ 

เรือใบมาทิ้งเป็น 2-0 ในนาที 28 จากเกมโต้เร็วที่ แบร์นาร์โด้ ลากขึ้นมาก่อนจะจ่ายต่อไปให้ กรีลิช หลุดเดี่ยวไปดวลกับ ซานเชซ ก่อนจะปาดไปให้ โฟเด้น แปโล่งเข้าประตูไป

อีก 3 นาทีต่อมา ทีมเยือน มาทิ้งเป็น 3-0 จากจังหวะที่ตัดบอลได้กลางสนาม แล้วเป็น เชซุส ที่ลากขึ้นมาก่อนจ่ายไปให้ กรีลิช พยายามจะเปิดเข้าในแต่ไปติดบล็อกมาเข้าทาง เชซุส แปแบบไม่จับบอลไปแฉลบทาง โฟเด้น ทำให้ ซานเชซ ปัดไม่ออกเข้าประตูไป ทำให้จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ บุกมานำ ไบรท์ตัน ไปถึง 3-0

กลับมาต่อเกมครึ่งหลังยังเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ครองบอลมากกว่าแต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถเอาประตูทาง ไบรท์ตัน เพิ่มได้ 

แต่ในนาทีที่ 58 เป็นเจ้าบ้านที่มีโอกาสได้ยิงจากจังหวะที่  โมลเดอร์ ไหลบอลมาให้ ทรอสซาร์ ได้แตะเข้าไปยิงด้วยขวาหน้าเขตโทษแต่ทาง เอแดร์ซอน ก็ยังเซฟเอาไว้ได้ 

อีก 3 นาทีต่อมา ไบรท์ตัน มีโอกาสอีกครั้งจากการทำชิ่งที่ โมลเดอร์ เล่นกับ เอน็อค เอ็มเวปู ก่อนที่ โมลเดอร์ จะไหลให้ ทรอสซาร์ หลุดเข้าไปกดด้วยซ้ายแต่ทาง เอแดร์ซอน ก็ยังปัดออกหลังไปได้ ครึ่งหลังเป็น เจ้าบ้าน ที่ทำเกมรุกบุกเข้าใส่ได้มากกว่า แต่ก็ยังเจาะเกมรับของ ซิตี้ ไม่ได้ 

จนนาที 81 ไบรท์ตันมาได้ลูกโทษจากจังหวะที่ เอ็มเวปู ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะโดน เอแดร์ซอน พุ่งรวบขาเต็มๆ ทำให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกโทษทันที และเป็น อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ตัวสำรองที่ซัดเข้าไป ทำให้ เจ้าบ้านไล่มาเป็น 1-3 

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 5 เรือใบ มาตอกฝาโลง จากความผิดพลาดของแนวรับเจ้าบ้าน โฟเด้น ไหลต่อไปให้ ริยาด มาห์เรซ จับก่อนซัดโล่งๆ เข้าประตูไป จบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกถล่ม ไบรท์ตัน 4-1

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

ไบรท์ตัน : โรเบิร์ต ซานเชซ, โยเอล เฟลท์มัน, ลูอิส ดังค์, แดน เบิร์น, ซอลลี่ มาร์ช, ปาสกาล โกรสส์, อดัม ลัลลาน่า, ยาคุบ โมเดอร์, มาร์ก กูกูเรย่า, เลอันโดร ทรอสซาร์, นีล โมเปย์

แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน, ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, เอมเมอริก ลาปอร์กต์, ชูเอา กานเซโล่, อิลคาย กุนโดกัน, โรดรี้ เอร์นานเดซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, กาเบรียล เชซุส, ฟิล โฟเด้น, แจ็ค กรีลิช 

ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์