เดรย์มอนด์ กรีน ฟอร์เวิร์ด โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส เห็นด้วยกับการเปลี่ยนกฎของลีกเอ็นบีเอที่ลดการเป่าฟาวล์แจกผู้เล่นเกมบุกเวลาเคลื่อนตัวหลอกในจังหวะลุ้นทำคะแนนว่าสมเหตุสมผลเพราะความหยุมหยิมหายไปหมด ช่วยการขับเคี่ยวเร้าใจขึ้น
ตั้งแต่เปิดซีซั่น 2021-22 ผู้ตัดสินจะเป่าฟาวล์ให้ผู้เล่นซึ่งกำลังลุ้นทำแต้มก็ต่อเมื่อโดนตบใส่มือหรือแขนแบบเต็มๆเท่านั้น หากเฟกล่อกินฟาวล์แบบเดิมหรือเคลื่อนตัวแบบผิดธรรมชาติไม่ถูกพิจารณาอีก
นั่นทำให้ผู้เล่นที่เคยหากินจากลูกฟาวล์ลักษณะนี้ประจำอย่าง เจมส์ ฮาร์เด้น, เทร ยัง, เดวิ่น บูเกอร์ หรือ ลูก้า ดอนชิช ค่าเฉลี่ยโอกาสยิงฟรีโทรว์ลดลงจากเดิมกว่าครึ่งถึงขั้นบางรายบ่นโอดโอย
แต่สำหรับ เดรย์มอนด์ กลับมองว่าความเข้มข้นของลีกกลับมาอีกครั้ง แบบไม่ต้องมีมารยา
https://twitter.com/NickFriedell/status/1454722561426690048
“ถามว่าผมสามารถพอใจกับการได้เห็นเกมบาสเกตบอลที่ปราศจากการเป่างี่เง่าลักษณะนั้นหรือเปล่า? - พวกที่ลักไก่เกมและหากินจากการเรียกฟาวล์ไปยิงโทษ บอกเลยว่าผมบันเทิงมากกับการดูกีฬายัดห่วงในปีนี้” การเปิดปากกับ ‘อีเอสพีเอ็น’
“ผมเคยเลิกดูเกมเอ็นบีเอมาสักพักเพราะเต็มไปด้วยการดีดตัวและพุ่งล้ม แต่ไอ้คนที่ตุกติกพวกนั้นดันได้ยิงฟรีโทรว์”
“อย่าง เจมส์ ฮาร์เด้น หนึ่งในเต้ยเรื่องดังกล่าว ทั้งพุ่งเรียกฟาวล์, ดึงจังหวะหลอกให้เกิดการสัมผัสตัว หรือหาลูกแถมจากการยิง 3-คะแนน เขาคือเบอร์ต้นๆ... และเมื่อคุณสู้กับคนเจ้าเล่ห์แบบนั้น จังหวะที่สัมผัสตัวก็เท่ากันติดเบ็ด ดีดเอาฟาวล์ทันที ซึ่งนั่นทำให้เป็นไปไม่ได้เลยหากจะป้องกันเขา”
“คุณเริ่มเห็นหลายคนเป็นผู้เชี่ยวชาญขึ้นมา แต่พวกเขาล้วนเรียนรู้จาก เจมส์ แน่นอน เพราะหมอนั่นคือปรมาจารย์ด้านดีดเอาฟาวล์ก่อนใครจะเดินตามรอย”
ฮาร์เด้น ทั้งอาชีพได้ยิงฟรีโทรว์เฉลี่ย 8.7 ครั้ง-ต่อ-เกม แต่ฤดูกาลนี้ลดมาเหลือ 5.7 คั้ง-ต่อ-เกม เท่านั้น
