ไบรท์ตัน เริ่มเกมได้วูบวาบน่ากลัวว่าอย่างชัดเจน กระทั่งนาทีที่ 24 ก็มาได้จุดโทษจากการเช็กย้อนหลังของวีเออาร์ เมื่อ เคียแรน คล้าร์ก ไปขัดขา เลอันโดร ทรอสซาร์ และเป็น ทรอสซาร์ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดส่งเจ้าบ้านนำ 1-0

จากนั้น ทั้ง ทาริก แลมพ์ตี้ย์, มาร์ก กูกูเรย่า รวมถึง ซอลลี่ มาร์ช ก็มีโอกาสจะบวกสกอร์ให้ ไบรท์ตัน ได้หนีห่าง แต่ก็ไม่เฉียบคมกันพอ หมดครึ่งแรกจึงเป็นฝ่ายนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง ไบรท์ตัน ก็ยังบุกหนักเหมือนเดิม โดย ทรอสซาร์ สบช่องได้ยิงหลายครั้งเลย แต่ก็หลุดกรอบไปเกือบหมด ขณะที่ลูกยิงด้วยซ้ายเน้นๆ จากหน้าเขตโทษของ อดัม ลัลลาน่า ก็เฉี่ยวเสาออกไปอีก

พอมีโอกาสแล้วทำไม่ได้ นาทีที่ 66 เลยโดน นิวคาสเซิ่ล ตีเสมอ เมื่อ เคียแรน คล้าร์ก โหม่งชงบอลจากในเขตโทษด้านซ้ายมาตรงกลางให้ ไอแซ็ค เฮย์เด้น ได้ตั้งป้อมวอลเลย์เน้นๆ ตุงตาข่าย

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นิวคาสเซิ่ล ได้สวนกลับ คัลลั่ม วิลสัน ได้บอลทะลุช่องแตะผ่าน โรเบิร์ต ซานเชซ ที่ออกมานอกเขตโทษไปแล้ว แล้วอยู่ดีๆ ก็ล้มลง ซึ่งทีแรกผู้ตัดสินปล่อยเกมเล่นต่อไป พอบอลตายก็ได้รับสัญญาณจากวีเออาร์ให้ไปเช็กจอที่้ข้างสนาม และชัดเจนว่าจังหวะที่ วิลสัน ล้มตอนหลุดเดี่ยวจะไปยิงประตูโดน ซานเชซ สะกิดล้มลงไป ผู้ตัดสินเลยให้ใบแดงไล่นายทวารชาวสเปนออกไปเลย

ไบรท์ตัน ที่เปลี่ยนตัวครบไปแล้วต้องให้ ลูอิส ดังค์ มารับบทนายทวารจำเป็น

กระนั้นกับช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่เหลืออีกราว 5 นาทีกว่า นิวคาสเซิ่ล กลับไม่ได้ทำอะไรให้ ดังค์ ต้องออกแรง หรือกดดันอะไรเลย จบเกมเสมอกัน 1-1 แบ่งไปทีมละแต้ม