เกมที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม เล่นมาได้แค่ 2 นาที เชลซี ออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ อันเดรียส คริสเตนเซ่น โหม่งลูกเตะมุมมาถึง ทิโม แวร์เนอร์ ชาร์จระยะเผาขนเข้าประตูไป

เกมของ สิงห์บลูส์ ดูดีกว่า แต่กลับเป็น เซนิต ที่ตามตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 38 จากจังหวะที่ ดั๊กลาส ซานโตส เปิดบอลไปให้ เคลาดินโญ่ โหม่งตุงตาข่ายไม่เหลือ

และเพียง 3 นาทีให้หลัง เจ้าบ้านมาพลิกแซงนำ 2-1 ลูกนี้ มัลคอม จ่ายทะลุไปให้ ซาร์ดาร์ อัซมูน หลุดไปยิงผ่านมือ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า เข้าประตูไป และหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ในครึ่งหลัง นาทีที่ 62 เชลซี ตามตีเสมอ 2-2 เมื่อ ทิโม แวร์เนอร์ จ่ายบอลไปให้ โรเมลู ลูกากู ได้สับไกด้วยซ้ายเข้าประตูไป

นาทีที่ 85 สิงห์บลูส์ ก็มาแซงนำ 3-2 จากลูกที่ คริสเตียน พูลิซิช จ่ายไปให้ ทิโม แวร์เนอร์ ยิงด้วยขวาในเขตโทษตุงตาข่าย

เกมทำท่าจะจบลงด้วยชัยชนะของทีมเยือนอยู่แล้ว แต่ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 4 เจ้าถิ่นกลับตามเอาคืนได้จากลูกยิงไกลด้วยขวาของ มักโกเม็ด ออซเดเยฟ จบเกมเสมอกัน 3-3

ผลแบบนี้ ทำให้ เชลซี ที่กำลังจะเข้าป้ายเป็นแชมป์กลุ่มหากชนะต้องตกมาเป็นอันดับสองแทน เนื่องจากผลอีกคู่ ยูเวนตุส สามารถเอาชนะ มัลโม่ ได้