หลังจากเป็นกระแสข่าวให้พูดถึงมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยืนยันคว้าตัว ธีราทร บุญมาทัน กลับมาค้าแข้งกับทีมเป็นคำรบสองอีกครั้ง โดยจะเข้ามาเสริมทีมลุยศึกไทยลีก ในช่วงเลก 2 เป็นต้นไป

โดยเจ้าอุ้มได้กล่าวเปิดใจล่าสุดว่า "ผมพูดมาเสมอว่าเจลีก คือความฝันสูงสุดของผม ผมขอขอบคุณสโมสรโยโกฮามา เอฟ มารินอส ที่หยิบยื่นโอกาสให้ผมกลับมาเล่นที่นี่อีกครั้ง และมองเห็นอะไรบางอย่างในตัวผม ตลอด3ฤดูกาลที่อยู่ที่นี่ ผมผ่านทั้งช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จ และยากลำบากกับทีม แต่สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุด คือการที่สโมสรแห่งนี้ อยู่กันเหมือนครอบครัว ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นเหมือนกับที่นี่เป็นบ้านอีกหลังนึง  ทั้งสตาฟฟ์โค้ชและเพื่อนร่วมทีม ให้การยอมรับ ให้เกียรติและดูแลผมเป็นอย่างดี ดีมากจริงๆครับ

ผม..อยากขอบคุณทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกคนที่เคยร่วมงานด้วย โดยเฉพาะโค้ชอังเก้ ที่เป็นคนเลือกผมเข้ามา ได้ให้โอกาสผม เรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน และทำให้ผมพัฒนาตัวเองขึ้น จนกระทั่งทำให้ผมมีวันนี้ 

และที่ขาดไม่ได้ ผมอยากขอบคุณแฟนๆมารินอส ที่คอยให้กำลังใจ และสนับสนุนผมมาเป็นอย่างดี คอยเป็นกำลังใจให้ผมเสมอ ผ่านทั้งเสียงเชียร์ในสนาม และข้อความ ซึ่งล้วนแต่สำคัญกับผมมากๆครับ

สุดท้ายนี้ แม้ว่าผมจะไม่ได้อยู่กับทีมแล้ว แต่ผมจะเป็นแฟนบอลของมารินอสตลอดไปครับ ด้วยแรงสนับสนุนที่ดีจากแฟนๆ และศักยภาพของเพื่อนร่วมทีมทุกคน ผมเชื่อว่าสโมสรแห่งนี้จะเติบโต และประสบความสำเร็จได้มากกว่านี้ เหนือสิ่งอื่นใดผมหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยฐานะอะไรก็ตามครับ.."

"ส่วนหลังจากนี้ ผมจะออกไปสู้ในเส้นทางที่ผมเลือกเดินต่อไป ในวัย 31 ปี ผมยังเชื่อมั่นในสภาพร่างกายของผม ยังกระหายที่จะประสบความสำเร็จ และ พัฒนาเป็นนักฟุตบอลที่ดีขึ้นในทุกๆวัน ผมจะพยายามทุ่มเทเต็มที่ และทุกสิ่งที่มี เพื่อพาสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ ให้สมกับที่สโมสรเชื่อมั่นในตัวผมครับ 

และขอขอบคุณพ่อเนวินและแม่ต่าย ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของผม และให้โอกาสผมกลับมาเล่นฟุตบอลในประเทศบ้านเกิดอีกครั้ง

ผมขอฝากเนื้อฝากตัวกับแฟนบอลทุกๆคน หวังว่าทุกคนจะเป็นกำลังใจให้ผม คอยสนับสนุนผม และทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด"

ผมเฝ้ารอที่จะได้พบกับแฟนบอลทุกคนเร็วๆ นี้ครับ

สำหรับ ธีราทร บุญมาทัน ย้ายจาก วิสเซล โกเบ มาค้าแข้งกับ “เจ้านกนางนวล” เมื่อปี 2019 มีสถิติลงสนามในเกมลีก 78 นัด ทำได้ 3 ประตู กับอีก 10 แอสซิสต์ ตลอดช่วง 3 ปี ประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยการพาทีมคว้าแชมป์เจลีก 1 สมัย (ปี 2019) และถือเป็นนักเตะไทยคนแรกที่สามารถทำได้