ไบรท์ตัน เจ้าถิ่นส่ง นีล โมเปย์ เล่นหน้าคู่กับ เลอันโดร ทรอสซาร์ ส่วน คริสตัล พาเลซ ขาดผู้เล่นไปเตะทีมชาติหลายคน แต่แนวรุกก็ยังมี อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ เป็นหน้าเป้า

เริ่มเกมมานาทีที่ 10 ไบรท์ตัน มีโอกาสจากจังหวะที่ มาร์ก กูกูเรย่า เปิดบอลให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ ยิงด้วขขวาในเขตโทษ แต่ว่าติดเซฟ แจ็ค บัตแลนด์

นาที 37 ไบรท์ตัน มาได้จุดโทษเมื่อ วิลล์ ฮิวจ์ส ฟาวล์ใส่ โยเอล เฟลท์มัน ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ก่อนให้เป่าเป็นจุดโทษ ปาสกาล กรอสส์ รับหน้าที่สังหารแต่ว่ายิงติดเซฟ แจ็ค บัตแลนด์ ที่เซฟด้วยขาหวุดหวิด สกอร์แรกยังไม่มา

จากลูกเตะมุมก็เกิดจังหวะปัญหาอีกครั้ง แดน เบิร์น ได้โหม่ง แจ็ค บัตแลนด์ คว้าบอลได้พร้อมๆ กับ นีล โมเปย์ ที่ชาร์จจนทำให้บอลหลุดและยิงจ่อๆ เข้าไป ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์พบว่า บัตแลนด์ คว้าบอลได้แล้วจึงเป็นการฟาวล์ของ โมเปย์ ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลัง ไบรท์ตัน มีโอกาสทองสองจังหวะซ้อนใน 5 นาทีแรกเริ่มจาก ปาสกาส กรอสส์ เปิดบอลจากขวาให้ ยาคุบ โมเดอร์ ตวัดยิงส่งบอลหนีมือ บัตแลนด์ ไปแล้วแต่ว่าชนคานอย่างจังหวะ และอีกจังหวะ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ กระดกบอลให้ โมเดอร์ หลุดไปยิง แต่ว่างัดบอลข้ามคานน่าเสียดาย

ทว่ากลับเป็น พาเลซ ที่ได้ประตูนำ 1-0 ในนาที 69 เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ เก็บบอลได้ริมเส้นหลังฝั่งซ้ายก่อนตักให้ คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ จับแล้วดีดด้วยขวาระยะ 10 หลา เข้าไปอย่างเด็ดขาด

จากนั้น ไบรท์ตัน ลุยแหลกหวังตีเสมอให้ได้ ก่อนทำสำเร็จในนาที 87 จากจังหวะที่ นีล โมเปย์ เปิดบอลจากซ้ายยัดไปหน้าประตู โยอาคิม อันเดอร์เซ่น สกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง ทำให้สกอร์กลับมาเป็น 1-1 และจบเกมด้วยสกอร์นี้