เริ่มเกมมา 14 นาที สเปอร์ส ออกนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ ไรอัน แซสเซอญง ควบถึงสุดเส้นหลังก่อนเปิดบอลยัดไปหน้าประตู ไมเคิ่ล คีน พยายามสกัดแต่ผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง

อีก 3 นาทีถัดมา สเปอร์ส นำเพิ่มเป็น 2-0 แฮร์รี่ เคน จ่ายจากฝั่งขวาให้  เดยัน คูลูเซฟสกี้ จิ้มต่ออีกทีถึง ซน ฮึง-มิน หวดด้วยขวาทะลุการเซฟของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ตุงตาข่าย

สเปอร์ส ได้ลุ้นอีกสองจังหวะจาก ซน ฮึง-มิน ในนาที 28 และ  แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ ในนาที 34 แต่ก็ติดเซฟของ พิคฟอร์ด

ท้ายครึ่งแรกนาที 37 สเปอร์ส นำเป็น 3-0 จนได้ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ กระแทกบอลให้ แฮร์รี่ เคน วิ่งสอดเข้าไปล่อเป้า พิคฟอร์ด ไม่เหลือ โดยมีการเช็กวีเออาร์ยืนยันว่าหัวหอกทีมชาติอังกฤษไม่ล้ำหน้าด้วย

ครึ่งหลัง เริ่มได้ไม่ถึงนาที สเปอร์ส นำห่างเป็น 4-0 จากจังหวะที่ตัดบอลได้แถวกลางสนามและโต้กลับทันที ซน ฮึง-มิน ลากถึงหน้าเขตโทษก่อนถ่ายออกขวาให้ คูลูเซฟสกี้ กระแทกย้อนไปเสาไกลให้ เซร์คิโอ เรกิลอน ที่เพิ่งลงสำรองวิ่งมายิงง่ายๆ เข้าไป

สเปอร์ส มาได้ประตูนำ 5-0 ในนาที 55 เมื่อ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ โยนบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย แฮร์รี่ เคน วิ่งรอจังหวะก่อนวอลเลย์ด้วยซ้ายส่งบอลผ่าน พิคฟอร์ด เข้าประตูไปอย่างสุดสวย 

ช่วง 20 นาทีสุดท้าย เอฟเวอร์ตัน ปรับเกมส่ง เดเล่ อัลลี่ เด็กเก่า สเปอร์ส ลงสนามโดยที่แฟนบอลเจ้าถิ่นก็ปรบมือให้เจ้าตัวด้วยหลังเคยเล่นให้ทีมนานหลายปี  

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นอีก จบเกม สเปอร์ส ชนะ เอฟเวอร์ตัน ขาดลอย 5-0 เก็บเพิ่มเป็น 45 คะแนนจาก 26 นัด ตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด 2 คะแนน แต่แข่งน้อยกว่า 2 นัด และนัดหน้าต้องไปเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวันเสาร์ที่ 12 มีนาคมด้วย