สโมสร เชลซี ชื่อนี้ยังไงก็ดึงดูดนักลงทุนเมื่อล่าสุดมีนักธุรกิจทรงอิทธิพลชาวสหราชอาณาจักร นิค แคนดี้ เสนอตัวซื้อกิจการจาก โรมัน อบราโมวิช ที่ตัวเลขไม่เกิน 2,500 ล้านปอนด์ โดยจุดขายคือมีโปรเจคต์ปรับปรุงสแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกด้วยมูลค่า 1,500 ล้านปอนด์
อบราโมวิช ประกาศขายทีม ‘สิงห์บลูส์’ หลังบริหารงานมา 19 ปี ตัวเลข 3,000 ล้านปอนด์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเหตุผลหลักก็มาจากการที่รัสเซียชาติบ้านเกิดของเขารุกรานยูเครน สร้างความสั่นสะเทือนให้วงการฟุตบอลยุโรป
ที่ผ่านมามีกลุ่มสนใจอย่างของ ฮันส์ยอร์ก วิสส์ มหาเศรษฐีสัญชาติสวิส หรือ มูห์ซิน บายรัค มหาเศรษฐีชาวตุรกี ที่แสดงตัวว่าอยากครองกิจการที่ เดอะ บริดจ์
https://twitter.com/MailSport/status/1501339505806102529
ล่าสุดมีกลุ่มของ แคนดี้ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผู้มั่งคั่งวัย 49 ปีแถมเป็นแฟนบอลตัวยงของ เชลซี พร้อมร่วมวงแย่งซื้อสโมสรโปรด
โดยไฮโซน.ที่เชียร์ ‘สิงห์บลูส์’ ตั้งแต่ 4 ขวบไม่ได้ควักกระเป๋าตัวเองคนเดียว แต่จะไปจับมือกลุ่มทุนอเมริกันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือทางสินทรัพย์เสนอตัวเทกโอเวอร์ โดยเอาชื่อตัวเองนำเพราะสัญชาติสหราชอาณาจักรง่ายต่อการดำเนินธุรกรรม
“นิค แคนดี้ ดำเนินการมองหาทางเลือกหลากหลายเพื่อยื่นเสนอขอซื้อกิจการ เชลซี” โฆษกของนักธุรกิจดังเผยกับ ‘เมล ออนไลน์’
“ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอใดก็จะจับมือกับกลุ่มหรือพันธมิตรอื่นไปด้วย ซึ่งเรามีความสนใจอย่างจริงจังจากนักลงทุนต่างแดนพร้อมลงขัน”
“มิสเตอร์ แคนดี้ หลงใหล เชลซี มานาน พ่อของแกเคยถูกทาบมาเล่นแก่สโมสร, เขาเข้าสแตมฟอร์ด บริดจ์ ชมเกมตั้งแต่ 4 ขวบ”
“สโมสรต้องการสนามเหย้าระดับโลก รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานอื่น ซึ่งมิสเตอร์แคนดี้ มีความชำนาญเรื่องพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ก็คงได้เสนอมุมมองที่น่าสนใจแก่ทีม”
เหมือนเคส นิวคาสเซิ่ล ที่ใช้มาดาม อะแมนด้า สแตฟลี่ย์ นำทัพกลุ่มทุนรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ซื้อกิจการที่ เซนต์.เจมส์ พาร์ค ผ่านฉลุย 300 ล้านปอนด์ ทั้งที่มีข้อกังขาเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศนั้น
สำหรับนักลงทุนอเมริกันที่โดนเชื่อมโยงซื้อกิจการได้แก่ โธมัส ริคเก็ตต์ เจ้าของทีมเมเจอร์ลีก เบสบอล ชิคาโก คับส์, วู้ดดี้ จอห์นสัน เจ้าของแฟรนไชส์อเมริกัน เอ็นเอฟแอล นิวยอร์ก เจ็ตส์ และ จอช แฮร์ริส ผู้ถือหุ้น คริสตัล พาเลซ
