ณ สนามชลบุรี สเตเดียม การแข่งขันฟุตบอลนัดอุ่นเครื่องตามปฏิทิน ฟีฟ่าเดย์ ทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติเนปาล ไปด้วยสกอร์ 2-0
หลังจบการแข่งขัน มาโน โพลกิ้ง กล่าวว่า “ดีใจที่สามารถเก็บชัยชนะได้ เรายิงได้ 2 ประตูแล้วก็ไม่เสียประตู เกมรับทำได้ดี คุมเกมได้หมด ดีใจที่ได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลอีกครั้ง ซึ่งแฟนบอลชลบุรีให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นทำให้บรรยากาศดีมากๆ”
“เข้าใจว่าแฟนบอลอยากเห็นการทำประตู แต่ช่วงนี้เป็นช่วงสำคัญของลีก ได้มีการตกลงกับทีมเอาไว้ว่าจะเลือกผู้เล่นเป็น 2 ชุดและไม่มีใครได้ลงเล่นเกิน 90 นาที ดังนั้นในวันอาทิตย์จะเป็นผู้เล่นอีกชุดหนึ่ง ซึ่งทุกคนที่ลงไปก็ทำได้ดี ทั้งพรรษา เหมวิบูลย์, เฉลิมศักดิ์ อักขี หรือผู้รักษาประตูทั้งสองคน มีจังหวะออกมาตัดบอลและเล่นบอลด้วยเท้าได้ดี”
“เราไม่เปลี่ยนผู้เล่นใหม่ๆ ออกเพราะว่าอยากเห็นผลงานในสนามด้วย แม้ว่าประตูจะมาช้าหน่อย แต่ก็สร้างโอกาสได้เยอะ อยากให้นักเตะเข้าใจแนวทางการเล่นที่ทำมาและทุกคนก็ทำได้ดี”
“การเปลี่ยนตัวช่วงท้ายอยากเห็นธีราทรที่เป็นกัปตันทีมได้ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอล เช่นเดียวกับ กฤษดา ที่เป็นผู้เล่นของชลบุรี อยากให้ได้ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลตัวเอง ส่วนการที่ใช้วิงแบ๊กไปเล่นเป็นปีกเพราะเป็นแนวทางที่เคยทำเอาไว้ตอนซูซูกิ คัพ จึงอยากจะลองดูอีกครั้งเท่านั้น”
ด้าน อับดุลลาห์ อัล มูไตรี เฮดโค้ชเนปาล กล่าวว่า “ต้องแสดงความยินดีกับทีมชาติไทย แม้ว่าทีมของตนจะเล่นได้ดีและคิดว่าควรจะเก็บผลการแข่งขันได้แต่ก็ไปสร้างความผิดพลาดจนเสียประตูใน 2 จังหวะทำให้แพ้ไป”
“ส่วนในเกมที่เห็นโมโหผู้ตัดสินนั้นเป็นจังหวะมีอารมณ์ร่วมและต้องสู้เพื่อลูกทีมของตัวเองจึงทำให้เกิดอารมณ์รุนแรง แต่เมื่อจบเกมเรายอมรับผลการแข่งขัน เราไม่ได้แพ้เกมนี้เพราะผู้ตัดสิน แต่แพ้เพราะพลาดใน 2 จังหวะ และกรรมการไม่ได้มีส่วนต่อความพ่ายแพ้ของทีมแต่อย่างใด”
สำหรับโปรแกรม การอุ่นเครื่องนัดต่อไป
วันที่ 27 มีนาคม 2565 เวลา 19.00 น. ณ สนามบีจี สเตเดียม ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติ ซูรินาม (อันดับที่ 140 ในฟีฟ่า แรงกิ้ง) ถ่ายทอดสด AIS PLAY และ ไทยรัฐทีวี
