จากการที่ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เตรียมจัดการแข่งขันฟุตบอล "ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก" เป็นรายการใหม่ที่ได้มีการวางแผนและพัฒนามาเรื่อยๆ ใช้เวลารวม 6 ปีในการพัฒนา และจะจัดขึ้นทุกๆ 2 ปีเพื่อเลี่ยงไม่ให้มีการแข่งขันตรงกับรายการอื่นๆ โดยจุดประสงค์ของรายการนี้จัดขึ้นเพื่อแทนที่การเตะนัดกระชับมิตรแบ่งเป็นลีกและมีกลุ่มย่อยในลีกอีกที มีการหาทีมเลื่อนชั้นตกชั้นและหาทีมแชมป์ในแต่ละฤดูกาล เพื่อให้การแข่งขันดูสนุกเข้มข้นมากกว่าเดิม และคาดว่าหลายชาติจะเน้นส่งนักเตะตัวหลักลงสนาม ซึ่งการแข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 6 กันยายน นี้แล้ว นับเป็นครั้งแรกของลีกในฤดูกาล 2018-19

ด้าน นายพาทิศ ศุภะพงษ์ โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ THSPORT ว่าการจัดลีกฟุตบอลรายการนี้จะส่งผลกระทบต่อการจัดโปรแกรมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ไปทั่วโลก เพราะทีมจากทวีปอื่นๆ จะหมดโอกาสในการดวลแข้งกับทีมจากยุโรป และทำให้อำนาจต่อรองของชาติในทวีปอื่นๆ มีมากขึ้น เช่นหากทีมชาติไทยอยากหาทีมลงเตะด้วย ก็จะเหลือเพียงจากอเมริกาใต้, คอนคาเคฟ, แอฟริกา และ เอเชีย เท่านั้นซึ่งหากเป็นทีมในระดับแรงกิ้งสูงๆ ค่าจ้างก็จะสูงยิ่งขึ้นไปเช่นกัน 

นอกจากนี้หลังจบการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 ระหว่างวันที่ 23-25 มีนาคม นี้ ที่มี สโลวาเกีย, ยูเออี และ กาบอง เป็นทีมรับเชิญมาโม่แข้งกับทีมชาติไทยนั้น สโลวาเกีย อาจจะเป็นทีมจากยุโรปทีมสุดท้ายที่ทีมชาติไทยมีโอกาสได้อุ่นเครื่องด้วย เพราะหลังจากนี้ไปทีมในยุโรปก็จะเข้าสู่การแข่งขัน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ซึ่งเชื่อว่ามูลค่าทางการตลาดจะยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ไปตามกาลเวลาเช่นเดียวกับฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย