คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ เรอัล มาดริด ยอมรับว่าทีมชุดขาวมีความพร้อมน้อยกว่า ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต เล็กน้อย เนื่องจากทีมอินทรีแดง-ดำเริ่มต้นซีซั่นเร็วกว่า ก่อนทั้งสองทีมจะลงเผชิญหน้ากันในรายการ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ ที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ตามรายงานจากมาร์ก้าเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา 

'เรามีข้อเสียมากกว่า ไอน์ทรัค เล็กน้อย ที่เริ่มต้นฤดูกาลก่อน แต่เราจะเล่นเพื่อชัยชนะ เรามองไปข้างหน้าและไม่ถอยหลัง ชัยชนะในปีที่แล้วตอกย้ำถึงสิ่งที่เราเชื่อ แต่เราต้องโฟกัสไปที่เกมที่จะเกิดขึ้นในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนี้ที่มีเดิมพันถึง 6 รายการ และเราต้องการจะต่อสู้เพื่อพวกมันทั้งหมด' อันเชล็อตติ กล่าว

เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนยังกล่าวถึงการคว้าแชมป์ยูโรปาลีกของ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ในฤดูกาลที่แล้วว่า 'ปีที่แล้ว ไอน์ทรัค ประสบความสำเร็จบางสิ่งที่พิเศษ เพราะพวกเขาไม่ใช่ทีมเต็ง พวกเขาเล่นเกมอย่างยอดเยี่ยม เอาชนะ บาร์เซโลน่า ที่ คัมป์ นู ด้วยการเล่นสไตล์ฟุตบอลโต้กลับ ด้วยความสนใจอย่างมากในการป้องกันและการเปลี่ยนจังหวะเกมด้วยความเร็วสูง'

อันเชล็อตติ ยังกล่าวถึงสองแข้งใหม่ของทีมชุดขาวทั้ง อันโตนิโอ รือดิเกอร์ และ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ ว่าจะมีบทบาทสำคัญกับทีมชุดขาวในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนี้ 

'ผมเชื่อว่าเรามีนักเตะสองคนที่เก่งสุดในโลกในบทบาทของพวกเขา ประการแรก คุณภาพของพวกเขาจะเพิ่มความสามารถทางกายภาพและทางเทคนิคของทีมม จากนั้นมี (ความต้องการ) ปรับตัวเข้ากับกลุ่มและกลุ่มปรับตัวเข้ากับพวกเขาเล็กน้อย เราต้องไม่ลืมว่า 3 คนที่จากไป มาร์เซโล่, อีสโก้ และ เบล ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้สโมสรนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้น เรอัล มาดริด ทั้งหมดจึงรู้สึกขอบคุณผู้เล่นเหล่านั้น เราหวังว่าผู้มาใหม่จะสามารถทำซ้ำในการหาประโยชน์จากผู้ที่จากไป' เทรนเนอร์ขาวอิตาเลียนกล่าว

อันเชล็อตติ ยังปิดท้ายการสัมภาษณ์ด้วยการเปรียบเทียบการคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลล่าสุดกับความสำเร็จเมื่อปี 2014 

'ในปี 2014 แชมป์สมัยที่ 10 น่าจะเป็นสิ่งที่คาดเดาได้มากกว่า เพราะทีมใกล้จะบรรลุเป้าหมายมาแล้วหลายครั้ง แกเร็ธ เบล เพิ่งย้ายมาอยู่กับเรา และเราเป็นทีมเต็งที่จะคว้าแชมป์ตั้งแต่แรก ปีนี้ เราไม่ได้เป็นตัวเต็ง แต่เรายังคงสามารถคว้าแชมป์ได้ ต้องขอบคุณการทำงานร่วมกันที่ยอดเยี่ยมและคุณภาพของทีม'

'ผมคิดว่าปัจจัยสำคัญคือความอ่อนน้อมถ่อมตนและประสบการณ์ของนักเตะอายุมาก เสริมด้วยพลังและความกระตือรือร้นของผู้เล่นอายุน้อยกว่า' อันเช่ สรุป