"นกแก้ว" เอสปันญ่อล วาง โฆเซลู เป็นหน้าเป้า ส่วน "แชมป์เก่า" เรอัล มาดริด ที่ชนะรวดมา 2 นัดติด มี เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้, คาริม เบนเซม่า และ วินิซิอุส จูเนียร์ ลุยร่วมกันในแดนหน้า

เริ่มเกมมา 12 นาที เรอัล มาดริด ออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็วเมื่อ ออเรเลียง ชูอาเมนี่ ไหลบอลเข้าเขตโทษให้ วินิซิอุส จูเนียร์ วิ่งมายิงหักข้อด้วยขวาเข้าไปอย่างสุดยอด 

อีก 7 นาทีถัดมา ราชันชุดขาวมีจังหวะโต้กลับ วัลเวร์เด้ แทงบอลให้ วินิซิอุส ควบเข้าเขตโทษก่อนยิงด้วยขวา แต่ เบนฌาแม็ง เลอกอมต์ นายทวารเจ้าถิ่นซูเปอร์เซฟปัดบอลข้ามคานออกไปได้ 

นาที 38 เอสปันญ่อล มีโอกาสจากการยิงไกลของ วินิซิอุส ซูซ่า ที่กดด้วยขวาเต็มแรง บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยังเซฟช่วยทีมเยือนเอาไว้ได้ 

ก่อนจบครึ่งแรก 2 นาที เอสปันญ่อล ตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จเมื่อ ออสการ์ คีล จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ โฆเซลู จับซ้ายยิงขวาติดเซฟจังหวะแรก แต่บอลเด้งเป็นใจได้ตามซ้ำจ่อๆ ไม่พลาด และจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้ 

ครึ่งหลังนาที 57 เกมของ เรอัล มาดริด ยังไม่ดีขึ้นทำให้ต้องถอด ลูก้า โมดริช และ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ออก พร้อมกับส่ง เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า และ โรดริโก้ ลงสนาม

เอสปันญ่อล น่าจะได้ประตูนำสุดๆ ในนาที 59 จากฟรีคิกที่บอลตกตรงหน้า โฆเซลู ได้ยิงจ่อๆ  6 หลา แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผวาเซฟเอาไว้ได้เหลือเชื่อ ฆาเบียร์ ปูอาโด้ ได้วอลเลย์ซ้ำแต่ก็โด่งข้ามคาน

เรอัล มาดริด มีโอกาสบ้างในนาที 65 ดาวิด อลาบา โยนบอลจากซ้ายให้ เบนเซม่า จับแล้ววอลเลย์ด้วยซ้ายข้ามคาน ทว่าจังหวะนี้ เบนเซม่า ก็ล้ำหน้าไปแล้ว

นาทีถัดมา มาดริด ส่งบอลตุงตาข่ายได้ในจังหวะที่ กามาวิงก้า ลากลุยจนถึงหน้าเขตโทษแล้วยิงด้วยซ้ายติดเซฟ โทนี่ โครส ได้ซ้ำและมี เบนเซม่า แหย่เท้าเปลี่ยนทางบอลเข้าประตูไปอีกที แต่ เบนเซม่า ก็ล้ำหน้าเหมือนเดิม ทำให้ยังไม่ได้ประตู

ท้ายเกมนาที 88 เรอัล มาดริด บดเอาประตูที่ต้องการจนได้เมื่อ โรดริโก้ เปิดบอลจากซ้ายเลยไปถึงเสาไกล เบนเซม่า กระโดดแปเน้นๆ เข้าไปไม่เหลือ ทำให้ เรอัล มาดริด นำ 2-1