แดนนี่ เอนจ์ ซีอีโอ. ยูท่าห์ แจซ ชี้แจงกรณีโดนด่าเรื่องระเบิดทีมสร้างใหม่ว่าทำไปเพราะเห็นสภาพขุมกำลังเมื่อซีซั่นก่อนสิ้นศรัทธาต่อกันและกันแล้ว การทู่ซี้ต่อไม่เกิดประโยชน์ ทางใครทางมันดีกว่า
แจซ ล้างบางตั้งแต่แยกทางเฮดโค้ช ควินน์ สนายเดอร์ เมื่อจบซีซั่น 2021-22 จากนั้นเทรดผู้เล่นประสบการณ์ทิ้งเกือบเกลี้ยงไม่ว่า โดโนแวน มิทเชลล์, แพทริค เบฟเวอร์ลี่ย์, รอยซ์ โอนีล หรือ รูดี้ โกแบร์ โดยเวลานี้ทีมยังหวังปล่อย โบยาน บ็อกดาโนวิช, ไมค์ คอนลี่ย์ และ จอร์แดน คล้าร์กสัน ออกอีก
การตัดสินใจเปลี่ยแปลงครั้งใหญ่นำมาซึ่งเสียงวิจารณ์ 2 กระแสทั้งเห็นด้วยและคัดค้าน แต่ซีอีโอ.มากประสบการณ์มีคำอธิบายว่าชิงตัดตอนก่อนบั่นทอนจนเน่าทั้งระบบ
“ผมไม่แน่ใจว่า แจซ ยุคใหม่จะดีสุดได้แค่ไหน ตัวเองทั้งอยากรู้อยากเห็นและมองในแง่บวก” เอนจ์ แถลงข่าวสรุปเมื่อฝุ่นควันช่วงโยกย้ายซาลง
https://twitter.com/ClutchPointsApp/status/1569374928683540485
“แต่สิ่งที่ผมได้เห็นระหว่างฤดูกาลก่อนคือกลุ่มผู้เล่นไม่เชื่อใจกันอีกต่อไป”
“คิดว่าโดยบุคคลคงสามารถสะสางลงได้ แต่โดยส่วนรวมไม่เชื่อว่าเคลียร์ใจกันได้ ดังนั้นเราจึงเห็นนักกีฬาหลายคนพยายามวิ่งเต้นด้วยตัวเอง”
“เท่าที่ได้คลุกคลี ความเชื่อใจต่อกันและกันไม่ได้ยอดเยี่ยมเหมือนของทีมอื่นๆ”
“ยิ่งเมื่อเราเขาเพลย์ออฟ ก็คิดเลยว่าทำไมทีมนี้มันน่าผิดหวังบ่อยครั้ง บางทีพวกเขาอาจเฝ้ารอแค่เล่นโพสต์-ซีซั่นแบบส่งๆไป”
“ดังนั้นผมจึงเปิดโอกาสให้พวกเขาหาประโยชน์จากความกังขาดังกล่าว ซึ่งก็ชัดเจนว่าทีมนั้นคงไม่สามารถเล่นดรในเพลย์ออฟได้อีก”
คาดว่าทีมเลือดใหม่จะมี คอลลิ่น เซ็กซ์ตัน กับ เลารี่ มาร์กกาเน่น ประคองไปพลางๆร่วมกับ ทาเลน ฮอร์ตัน-ทัคเกอร์
