โรเบิร์ต ซาร์เวอร์ เจ้าของแฟรนไชส์ ฟีนิกซ์ ซันส์ แถลงการณ์ยอมรับคำตัดสินจากลีกบาสฯเอ็นบี จากพฤติกรรมใช้คำพูดเชิงเหยียดผิว และคุกคามทางเพศใส่บุคลากรสุภาพสตรีในทีม จากนี้จะไปทบทวนตัวเอง
ประเด็นอื้อฉาวดังกล่าวถูกขุดคุ้ยโดยสื่อฯยักษ์ ‘อีเอสพีเอ็น’ เมื่อปีที่ผ่านมา นำสู่การสอบสวนหาความจริงจากลีกกระทั่งประกาศบทลงโทษเจ้าของแฟรนไชส์วัย 60 ปี
นั่นคือห้ามยุ่งเกี่ยวกับทีม ซันส์, ทีมบาสฯสตรี ฟีนิกซ์ เมอร์คิวรี่ เป็นเวลา 1 ปี และปรับเงินเป็นจำนวน 10 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ
นับเป็นบทลงโทษที่ยังปรานีกว่าครั้ง โดนัลด์ สเตอร์ลิ่ง อดีตเจ้าของทีม แอลเอ คลิปเปอร์ส ซึ่งรายนั้นโดนบีบขายแฟรนไชส์
ซึ่งเมื่อทุกอย่างถูกสรุปออกมา ซาร์เวอร์ ก็แถลงการณ์ยอมรับคำตัดสิน พร้อมทบทวนตัวเองขอโอกาสปรับปรุงพฤติกรรมให้ดีขึ้นในอนาคต
https://twitter.com/melissarohlin/status/1569751239516385281
“แม้ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับรายงานหลายหัวข้อจาก เอ็นบีเอ แต่ก็อยากใช้โอกาสนี้กล่าวขอโทษต่อคำพูด, พฤติกรรมที่แสดงออกไปก้าวร้าวต่อลูกจ้าง” ซาร์เวอร์ กล่าว
“ก็ขอรับผิดชอบทุกการกระทำที่เกิดขึ้น”
“อยากขอโทษที่สร้างความเจ็บปวด และการตัดสินใจอันผิดพลาดที่ทำลงไปนั้น ไม่ใช่มาจากนิสัย, ปรัชญาส่วนตัวหรือการให้คุณค่าของผมเลย”
“น้อมรับบทลงโทษจากการตัดสินใจของเอ็นบีเอ โมงยามจากนี้ผมก็ถือโอกาสนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปเป็นบทเรียนเพื่อเติบโต รวมถึงดำเนินการสร้างวัฒนธรรมที่ทำงานเพื่อให้ลูกจ้างสบายใจและมีคุณค่า”
ทิศทางการปั้นทีม ซันส์ และ เมอร์คิวรี่ ไม่โดนผลกระทบต่อบทลงโทษดังกล่าวเพราะคนละส่วน
