ศึกโต๊ะเล็ก “คอนติเนนทัล ฟุตซอล แชมเปี้ยนชิพ ไทยแลนด์ 2022” ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก วันที่ 16 กันยายน 2565 คู่ชิงที่ 3 ทีมชาติไทย อันดับ 20 ของโลก ที่แพ้ อิหร่าน มา 2-3 พบกับ ทีมชาติฟินแลนด์ อันดับ 18 ของโลก ดีกรีแชมป์สแกนดิเนเวีย 5 สมัย ที่แพ้ โมร็อกโก 1-4

ก่อนเกม “บิ๊กสุ” สุทิน บัวตูม ผู้จัดการทีม และ  “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯฝ่ายฟุตซอลและฟุตบอลชายหาด ได้เข้าห้องแต่งตัวทีมชาติไทย ปลุกใจนักเตะให้สู้เต็มที่เพื่อแฟน ๆ และเพื่อนร่วมทีมที่บาดเจ็บจนไม่สามารถลงเล่นได้ทั้ง กฤษดา วงษ์แก้ว กัปตันทีม รวมถึง อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ

โดย คาร์ลอส เซซาร์ กุนซือใหญ่ ส่ง 5 คนแรก ประกอบด้วย ธีระวัฒน์ แก้ววิลัย ผู้รักษาประตู, กฤษณ์ อรัญสัญญาลักษณ์, เจษฎา ชูเดช, จรูญเดช หมื่นเที่ยง และ อิทธิชา ประภาพันธ์ ดาวซัลโว 3 ประตู โดยมี ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง เป็นกัปตันทีม ด้าน เซอร์จิโอ กัลเกลลี กุนซือชาวอิตาลีของฟินแลนด์ ส่ง 5 คนแรก มี แคสเปอร์ คางกาส ผู้รักษาประตู, จุคก้า คีโตล่า, เซอร์เก กอซูนอฟ, มิคโก้ คีโตล่า และ มิก้า โฮซิโอ

เปิดฉากครึ่งแรก ทั้งสองทีมแลกกันสนุก จนกระทั่ง น.9 ไทยได้ประตูขึ้นนำก่อนจากลูกผ่านจากซ้ายของ กฤษณ์ อรัญสัญญาลักษณ์ บอลมาถึงเสาสอง อิทธิชา ประภาพันธ์ ซัดเข้าไปช่วยให้ไทย ขึ้นนำ 1-0 และเป็นการยิง 4 นัดติดต่อกันในรายการนี้ 

อย่างไรก็ตาม น.11 ฟินแลนด์ ตามตีเสมอได้จาก จานี่ คอเปล่า กัปตันทีม ยกบอลข้าม ธีระวัฒน์ แก้ววิลัย เข้าไปเป็น 1-1

ถัดมานาทีเดียว ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง จ่ายติด โดน จานี่ คอร์เปล่า ฉกได้ ก่อนชิพข้าม ธีระวัฒน์ แก้ววิลัย ให้ ฟินแลนด์ พลิกแซงนำ 2-1 

แต่ น.15 จรูญเดช หมื่นเที่ยง โชว์สเต็ปโยกหลบก่อนโดนทำฟาวล์ที่ริมเส้นซ้าย และเป็นฟาวล์ครั้งที่ 6 ของฟินแลนด์ ทำให้เสียจุดโทษจุดที่สอง ก่อนที่ อิทธิชา ประภาพันธ์ จะยิงลอดขาผู้รักษาประตูฟินแลนด์เข้าไปตุงตาข่าย ตีเสมอ 2-2 และเป็นประตูที่ 5 ของ อิทธิชา ในรายการนี้ 

หลังจากนั้น ทั้งสองทีมยังเปิดเกมแลกกันสนุก แต่ไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 2-2 

กลับมาลุยกันต่อในครึ่งหลัง ฟินแลนด์ พยายามเปิดเกมบุกใส่ต่อเนื่อง ขณะที่ ไทย รอจังหวะโต้มีโอกาสลุ้นเช่นกัน น.28 จาก ปาณัสม์ กิตติภานุวงศ์ แต่ผู้รักษาประตูออกมาเซฟไว้ได้

น.36 คาร์ลอส เซซาร์ เฮดโค้ชทีมชาติไทย โดนใบเหลือง หลังจากไม่พอใจการตัดสินที่ไม่ให้ฟาวล์ของ วรุฒ หวังสะมาแอล

ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมพยายามเล่นเพาเวอร์เพลย์ แต่จนแล้วจนรอดก็ทำประตูเพิ่มกันไม่ได้ จบเกม เสมอกัน 2-2 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษทันที

ผลการดวลจุดโทษ ปรากฏว่า 5 คนแรก พลาดไปคนละ 1 เสมอกัน 4-4 ต้องดวลซัดเดนเดธถึงคนที่ 3 ก่อน ไทย เอาชนะไปสุดระทึก 7-6 คว้าอันดับ 3 ไปครอง

ส่วนคู่ชิงชนะเลิศ อิหร่าน แชมป์เก่า จะพบกับ โมร็อกโก เวลา 19.30 น. AIS PLAY ถ่ายทอดสดเหมือนเดิม