เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ แมนฯ ซิตี้ ชี้ว่าการขึ้นจ่าฝูงสำเร็จก่อนฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2022 เปิดฉากนั้นสำคัญมาก เพราะคาดเดาไม่ได้ว่าหลังจบทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์จะเกิดเหตุพลิกผันอีกกี่ตลบ
‘เคดีบี’ สังหารฟรีคิกเป็นประตูชัยให้ ซิตี้ ปราบ เลสเตอร์ 1-0 เมื่อเสาร์ที่ผ่านมา จนเก็บเพิ่มเป็น 29 แต้มแซงหน้า อาร์เซน่อล เป็นจ่าฝูงอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
ตำแหน่งหัวตารางสำคัญต่อขวัญกำลังใจแชมป์เก่า เพราะอย่างน้อยกุมความมีเปรียบไปจนกว่าบ็อกซิ่ง เดย์
“ผมคิดว่า เลสเตอร์ เคยใช้ระบบการเล่นนี้ (3-4-2-1) มาแล้วเวลาดวลกับเราเริ่มจากเมื่อ 2-3 ปีก่อน ตอนถล่ม 5-2” เดอ บรอยน์ เปิดปาก
“พวกเขาพยายามสร้างความหัวเสียแก่เรา แต่ผลงานวันนี้ทีมช่วยกันเล่นดีกว่า 70 นาที - คู่แข่งค่อยมาปรับหมาก ความผิดพลาดหนเดียวในเกมนี้คงเป็นความพยามยามตั้งลำจากแดนหลัง แต่ภาพรวมำกันได้ดี”
“เรื่องประตูชัยเมื่อคุณเลือกยิงแบบนั้น มันมีความเสี่ยงมากมาย ก็พยายามปั่นให้เนี้ยบสุด”
https://twitter.com/btsportfootball/status/1586350197172572161
“คุณไม่มีเวลามากพอเมื่อติดตามผลงาน ได้แต่หวังว่าจะข้ามกำแพงซึ่งมันเยี่ยมมากเมื่อมันเข้าประตูไป เพราะทันทีที่ลูกออกจากเท้าสัมผัสว่าต้องออกมาดี พ้นระยะกำแพงได้ยังไงก็มีลุ้น”
“ก็พยายามเอาชนะเกมไว้ก่อนไปเรื่อยๆจนกว่า เวิลด์ คัพ ที่ผ่านมาถือว่าเริ่มฤดูกาลได้ดี”
“เนื่องจากหลังจบฟุตบอลโลก มันยังเหลือการแข่งขันอีกยาว เดาไม่ออกจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็ไล่เกมชัยไปทีละเกม รักษาหัวตารางลีกไว้”
25 จาก 60 ประตูที่ เดอ บรอยน์ ทำได้บนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกิดจากนอกกรอบเขตโทษคิดเป็น 42% มากสุดลำดับสามนับจากฤดูกาล 1992-93 ในเหล่าแข้งที่ซัดได้ 50 เม็ดขึ้นไปรองจากแค่ คริสเตียน เอริคเซ่น (44%) และ เดวิด เบ็คแฮม (55%)
