เริ่มเกมมา 6 นาทีแรก มิลาน ทักทายก่อนจากจังหวะที่ บราอิม ดีอาซ เปิดบอลให้ ราฟาเอล เลเอา ยิงในเขตโทษ แต่บอลไม่เข้ากรอบ

เจ้าถิ่นมีลุ้นบ้างในนาที 19 สเตฟาน ซิงโก้ เปิดบอลให้ ปิเอโตร เปลเลกรี ยิงในเขตโทษฝั่งขวาตรงกรอบ แต่ยังไม่ผ่านมือ ซีเปรียน ตาตารูซานู นายทวารของ มิลาน

นาที 35 เป็น โตริโน่ ที่ได้ประตูนำ 1-0 จากฟรีคิกทางฝั่งซ้ายที่ วาเลนติโน่ ลาซาโร่ เปิดเข้าเขตโทษ คอฟฟี่ ฌิฌี้ โขกเช็ดให้บอลเข้าเสาไกลได้สำเร็จ

อีก 2 นาทีถัดมา โตริโน่ ขยับหนีเป็น 2-0 จากจังหวะเปิดบอลยาวของ วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช ที่แนวรับมิลานเคลียร์ไม่ขาด นิโกล่า วลาซิช ได้เขี่ยให้ อเล็กเซ มิรานชุค เกี่ยวต่อเข้าเขตโทษก่อนยิงด้วยซ้ายเสียบเสาเข้าไป จากนั้นจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้

ครึ่งหลัง มิลาน แก้เกมเปลี่ยนตัวรวดเดียว 3 คนส่ง แซร์จินโญ่ เดสต์, ชาร์ลส์ เด เคทแลร์ และ อันเต้ เรบิช ลงแทน ปิแอร์ กาลูลู, บราอิม ดีอาซ และ ราฟาเอล เลเอา

นาที 67 เอซี มิลาน ไล่มาเป็น 2-1 จากจังหวะที่ วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช ออกมาตัดบอลหน้าเขตโทษพลาดวืดเพราะเสียจังหวะกันเองกับกองหลังเพื่อนร่วมทีม จูเนียร์ เมสซิอาส จึงได้ส้มหล่นก่อนแปโด่งส่งบอลย้อยเข้าเสาไกล

อีวาน ยูริช กุนซือของ โตริโน่ พยายามโวยวายว่าได้ฟาวล์จากจังหวะเสียประตูนี้ สุดท้ายได้ใบแดงจากผู้ตัดสิน ต้องออกจากข้างสนามไป

มิลาน ลุยต่อช่วง 12 นาทีสุดท้ายส่ง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงมาแทน จูเนียร์ เมสซิอาส เพื่อหวังเจาะประตูตีเสมอให้ได้ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ทำให้จบเกมเป็น โตริโน่ ที่เบียดชนะไปได้ 2-1 มิลาน จึงพลาดโอกาสแซงกลับไปรองจ่าฝูงน่าเสียดาย