คู่เปิดสนามระหว่างเจ้าภาพ กาตาร์ กับ เอกวาดอร์ ในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน มีการเล่นรวมทั้งหมดเป็นเวลา 100.18 นาทีเพราะมีจังหวะที่ต้องเช็กวีเออาร์ รวมถึงหยุดเกมในจังหวะต่างๆ 

ขณะที่เกมระหว่าง อังกฤษ กับ อิหร่าน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีการทดเวลาเจ็บครึ่งแรกนาน 14 นาทีและครึ่งหลังอีก 13 นาทีเพราะมีผู้เล่นบาดเจ็บโดยเฉพาะในครึ่งแรกที่ อาลีเรซ่า เบรันวานด์ ผู้รักษาประตูชนกับเพื่อนร่วมทีม

เช่นเดียวกับเกมระหว่าง สหรัฐฯ กับ เวลส์ ที่เฉพาะครึ่งหลังมีการทดเวลาเจ็บไป 10.34 นาที ส่วนเกมระหว่าง เซเนกัล กับ เนเธอร์แลนด์ส มีการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลังไป 10 นาที ทำให้ตลอด 4 คู่แรกของฟุตบอลโลกหนนี้เล่นเกิน 100 นาทีทุกคู่

นอกจากการบาดเจ็บแล้ว การปรับระบบทดเวลาบาดเจ็บของฟุตบอลโลกครั้งมีส่วนอย่างมากทำให้แต่ละคู่ต้องขยายหลายนาทีเพราะมีการนับเวลาในจังหวะที่หยุดเล่นจากหลายกรณี รวมไปทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นบอลออกข้าง การรอเล่นลูกตั้งเตะ การยิงจุดโทษ การทุ่มบอล การเปลี่ยนตัว การถ่วงเวลา รวมถึงการฉลองประตูด้วย 

ขณะที่ ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า อดีตผู้ตัดสินชื่อดังชาวอิตาเลียนที่ปัจจุบันเป็นหัวหน้าผู้ตัดสินของฟีฟ่าก็ออกมาเปิดเผยถึงแนวทางใหม่นี้ว่าต้องการให้เวลาที่เล่นบอลกันจริงๆ มีมากสุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ได้เสียไปกับจังหวะหยุดเกมต่างๆ

"เราต้องการหลีกเลี่ยงการแข่งขันที่เป็นเวลาเล่นฟุตบอลจริงๆ เพียงแค่ 42 , 43 หรือ 44 นาที" 

"ดังนั้น เวลาที่ใช้ในการเปลี่ยนตัว การยิงจุดโทษ  การดีใจ การปฐมพยาบาล หรือ วีเออาร์ จะถูกชดเชยทั้งหมด และอย่าแปลกใจถ้าฟุตบอลโลกหนนี้จะมีการทดเจ็บอย่างน้อย 6 , 7 หรือ 8 นาที'" คอลลิน่า กล่าว