รายงานจาก ‘ทายซี สปอร์ตส์’ ว่าบรรยากาศการฉลองแชมป์โลกสมัย 3 ของ ‘อ้ลบีเซเลสเต้’ เป็นไปอย่างสุดเหวี่ยงที่เมืองหลวงเมื่อประชากรกว่า 1-ใน-5 คือคิดเป็น 5 ล้านคน ออกมาร่วมแสดงความยินดีตลอดสองข้างทางที่พาเหรดบัสสองชั้นเคลื่อนผ่าน 

สามหนุ่มที่สนามบิน โรซารีโอ

แต่เพราะระหว่างเส้นทางสู่สู่อนุสาวรีย์ โอเบลีสโก มีเหตุที่เสี่ยงต่อสวัสดิภาพของคณะนักเตะและแฟนบอลเกิดขึ้นหลายครั้ง จึงมีการเปลี่ยนแผนเป็นเดินทางต่อสู่สถานที่จัดงานด้วยเฮลิคอปเตอร์แทน 

ซึ่งเมื่อกิจกรรมในกรุงบวยโนส ไอเรส เสร็จสิ้น เหล่าแข้งก็แยกย้ายไปตามภูมิลำเนา เด่นๆคือ เมสซี่, อังเคล ดิ มาเรีย นั่งเครื่องบินไปลงสนาม โรซารีโอ ซึ่งละแวกบ้านพวกเขาแฟนบอลท้องถิ่นแห่แหนรอต้อนรับแล้ว 

แถวบ้านเมสซี่คึกคักแล้ว

เช่นเดียวกับ ดีบาล่า ติดเครื่องไปลงยังเมืองใหญ่ของจังหวัด ซานตา เฟ่ ด้วย เพื่อให้ญาติขับรถมารับที่สนามบินแล้วขับไปทางตะวันตกกว่า 4 ชั่วโมงสู่เมือง ลากูนา ลาร์กา จังหวัดกอร์โดบา 

“ถึงจะล้าแต่ผมมีความสุขมากๆ ที่จะได้ไปกล่าวทักทายทุกคนยัง ลากูนา ลาร์กา” การเปิดปากกับ ‘เตเลเฟ โนตีเซียส’

“เรายินดีเป็นอย่างยิ่ง น่าเสียดายที่ไม่สามารถไปเจอทุกคนได้หมด” 

https://twitter.com/telefenoticias/status/1605345302768242688

“เกมนัดชิงฯชนะเลิศที่ผ่านไปคือแมตช์อันสวยงามสุด” 

“‘ดีบู’ (เอมี มาร์ตีเนซ) บอกผม - มึงยิงจุดโทษไปตรงกลางเลย - แล้วก็เข้าจริงๆ” 

บรรยากาศการฉลองตามบ้านเกิดตัวเองจะมีไปจนสุดสัปดาห์นี้ โดยผู้เล่นบางส่วนอาจได้พักจนสิ้นศักราช 2022 แต่กัยกับกลุ่มที่ค้าแข้งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เช่น มาร์ตีเนซ หรือ คริสเตียน โรเมโร่ คงต้องไปรายงานตัวต้นสังกัดหลังเทศกาลคริสต์มาส