เริ่มเกมมาเพียง 7 นาที นาโปลี ได้จุดโทษก่อนเลยจากจังหวะที่ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ชี้ขาดว่า นิโคล่า มูร์รู ทำฟาวล์ อองเดร-ฟร้องค์ อองกีสซ่า ในเขตโทษ มัตเตโอ โปลิตาโน่ รับหน้าที่ยิงทว่าซัดไปติดเซฟ เอมิล อูเดโร่ 

ซามพ์โดเรีย เกือบได้ในนาทีที่ 14 จากจังหวะเก็บตกแถวสองหน้าเขตโทษของ วาเลริโอ แวร์เร่ ที่กดด้วยซ้ายเต็มแรง อเล็กซ์ เมเร็ต ต้องบินปัดก่อนบอลเสียบสามเหลี่ยม และจากจังหวะเตะมุมลูกสูตร บราม นุยติงค์ ได้ขึ้นโขก เมเร็ต ขาตายไปแล้ว แต่บอลหลุดเสาไปนิดเดียว

นาโปลี ตอบโต้คืนในอีก 2 นาทีถัดมา โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ เปิดบอลจากขวาเข้าเขตโทษ  วิคเตอร์ โอซิเมน ได้โขก บอลจะเสียบใต้คานอยู่แล้วแต่ เอมิล อูเดโร่ ปัดได้หวุดหวิด

ทีมเยือนนำ 1-0 จนได้ในนาที 20 เอลีฟ เอลมาส หยอดบอลเข้าเขตโทษไปถึง วิคเตอร์ โอซิเมน แปกระแทกด้วยขวาเข้าไปอย่างยอดเยี่ยม 

นาโปลี เกือบได้อีกในนาที 31 ควิช่า ควารัตสเคเลีย หลุดขึ้นทางซ้ายก่อนเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษด้านในแล้วยิงด้วยขวา ทว่าบอลลอยโด่งข้ามคานออกหลังไป

สถานการณ์ของเจ้าถิ่นแย่ลงอีกในนาที 38 เมื่อเหลือผู้เล่น 10 คนหลังจาก โตมาส รินคอน พุ่งเสียบรุนแรงใส่ วิคเตอร์ โอซิเมน ที่กำลังกระชากบอลเข้าเขตโทษ ผู้ตัดสินจึงชักใบแดงไล่ออกทันที ก่อนจบครึ่งแรกที่ นาโปลี นำ 1-0

ครึ่งหลังนาที 52 นาโปลี มีลุ้นก่อนจากลูกเตะมุมที่ มัตเตโอ โปลิตาโน่ เปิดให้ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ โหม่งเสาแรกแต่ไม่เข้ากรอบ 

เข้าสู่นาที 63 นาโปลี ปรับเกมรุกหวังยิงประตูที่สองให้ได้โดยถอด ควิช่า ควารัตสเคเลีย และ มัตเตโอ โปลิตาโน่ ออกพร้อมส่ง พิโอเตอร์ ซิลินสกี้ และ อีร์วิ่ง โลซาโน่ ลงสนามแทน 

อีก 2 นาทีถัดมา นาโปลี เกือบได้จากจังหวะเก็บตกหน้าเขตโทษของ สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า ที่ซัดดวยขวาเต็มแรง ทว่าบอลไม่เข้ากรอบ และ โลบ็อตก้า ได้ยิงอีกครั้งในนาที 68 คราวนี้ตรงตัว เอมิล อูเดโร่ รับเข้าซอง

ท้ายเกมนาที 82 นาโปลี มาได้จุดโทษอีกครั้งจากจังหวะทำแฮนด์บอลของ โรนัลโด้ วิเอร่า ก่อนเป็น เอลีฟ เอลมาส รับหน้าที่ยิงเสียบใต้คานอย่างเฉียบขาดทำให้ทีมขึ้นนำ 2-0

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้น นาโปลี ปิดเกมบุกชนะ ซามพ์โดเรีย 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 44 คะแนน รั้งจ่าฝูงด้วยการทิ้งห่าง ยูเวนตุส เป็น 7 คะแนน