ที่ คิง ฟาฮัด อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม กรุงรียาด เป็นศึกซูเปอร์ คัพ รอบรองชนะเลิศ ระหว่าง เรอัล เบติส ปะทะ บาร์เซโลน่า 

ผ่านไป 23 นาที อาซูลกราน่า ส่งบอลเข้าประตูจากผลงาน เปดรี้ แต่นักเตะบาร์ซ่าเฮเก้อ เพราะทาง วีเออาร์ ตรวจสอบจังหวะก่อนพบว่ามีการล้ำหน้าเกิดขึ้น

เบติส สู้ได้ดีพอสมควร นาที 32 มีโอกาสลุ้นเช่นกัน นาบิล เฟกีร์ ครอสมาให้ เคร์มัน เปซเซลล่า โขกติดเซฟ แทร์ ชเตเก้น

แต่นาทีที่ 40 สโมสรจากกาตาลันออกนำ 1-0 อุสมัน เดมเบเล่ ไหลมาให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แปดอกแรกติดบล็อก ลุยซ์ เฟลีเป้ แต่หอกโปแลนด์ซ้ำดาบสองไม่พลาด

เบติส พยายามหาจังหวะตีเสมอแต่ก็ทำได้แค่เฉี่ยวไปมา กีโด้ โรดรีเกซ ยิงไหลเข้ามือ แทร์ ชเตเก้น จากนั้น นาบิล เฟกีร์ หวดด้วยซ้ายหลุดออกหลัง

กระนั้นนาทีที่ 77 เบติส ตีเสมอ 1-1 ลุยซ์ เอ็นรีเก้ รับบอลมาทำท่าจะยิงแต่จิ้มออกทางขวาให้ นาบิล เฟกีร์ หุบมาอัดด้วยซ้ายไม่เหลือซาก

นาทีที่ 81 บาร์เซโลน่า เฮเก้อเมื่อทาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ส่งบอลเสียบตาข่าย แต่ไม่ได้เพราะล้ำหน้าตั้งแต่จังหวะ เฟร์ราน ตอร์เรส

เรอัล เบติส หวิดแซงนำในนาที 84 จากจังหวะบอลหลุดไปเสาไหลทางซ้าย ฆวน มีรานด้า กดติดเซฟ แทร์ ชเตเก้น ออกหลังเป็นลูกเตะมุม

ช่วงทดเวลา อาซูลกราน่า พลาดโอกาสคว้าชัยเมื่อทาง อันซู ฟาตี หลุดไปจิ้มบอลเน้นๆ แต่ เคลาดิโอ บราโว่ ปัดข้ามคาน จบเกมเสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที

ผ่านช่วงต่อเวลาไป 2 นาทีเศษ บาร์ซ่า ออกนำ 2-1 มาร์กอส อลอนโซ่ เปิดฟรีคิกจากฝั่งขวาโดยนักเตะเบติสโขกเข้าทาง อันซู ฟาตี หวดด้วยซ้ายแบบไม่จับบอลพุ่งเสียบเสาไกล

แต่นาทีที่ 101 เบติส ตีเสมอ 2-2 จากจังหวะทำชิ่งเข้าเขตโทษทางขวา ลุยซ์ เอ็นรีเก้ ยัดมาตรงกลาง โลเรน โมรอน พักแล้วตอกส้นส่งบอลเข้าประตู

นาทีที่ 118 เบติส เหลือ 10 คนเมื่อทาง โฮเซ่ อันเดรส กวาร์ดาโด้ รับเหลืองสองจากจงหวะทำฟาวล์ ฟร้องก์ เกสซี่ จบ 120 นาทีเสมอ 2-2 ต้องดวลจุดโทษหาผู้ชนะ ปรากฏว่า บาร์เซโลน่า ทำได้ดีคว้าชัยด้วยสกอร์ 4-2 เข้าไปชิงชนะเลิศกับ เรอัล มาดริด วันอาทิตย์นี้