เจเล็น เฮิร์ตส์ ควอร์เตอร์แบ็ก ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ มีบทบาทสำคัญต่อการนำทีมบุกฟิลลี่โค่นทีมป้องกันอันดับหนึ่งของลีกอย่าง ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส ผ่านเข้าสู่เกม ซูเปอร์ โบวล์ ฐานะแชมป์เอ็นเอฟซีตามเป้าหมาย
เจเล็น เฮิร์ตส์ ควอร์เตอร์แบ็กวัย 24 ปีของ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ ภูมิใจกับการนำทีมบุกฟิลลี่สยบ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส ที่มีเกมป้องกันดีสุดอันดับหนึ่งของลีก 31-7 คว้าแชมป์เอ็นเอฟซีผ่านเข้าสู่เกม ซูเปอร์ โบวล์ ครั้งที่ 57 ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ จากรายงานของเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เฮิร์ตส์ ขว้างคอมพลีต 15 จาก 25 ครั้ง ระยะ 121 หลา ไม่มีทัชดาวน์และไม่เสียอินเตอร์เซปน์ เขาถือบอลวิ่ง 11 ครั้ง ระยะ 39 หลาและทำหนึ่งสกอร์ ส่วนอีก 3 ทัชดาวน์เป็นผลงานของรันนิ่งแบ็ก ไมล์ส แซนเดอร์ส ที่ทำ 2 สกอร์จากการถือบอลวิ่ง 11 ครั้ง ระยะ 42 หลา และ บอสตัน สกอตต์ อีกหนึ่งทัชดาวน์
'เราพบวิธีที่จะทำให้มันดำเนินต่อไป' เฮิร์ตส์ กล่าวหลังเกม 'มันดูแตกต่างออกไป นั่นเป็นเรื่องของทั้งทีม เกมบุกทั้งหมดในปีนี้ ออกไปที่นั่นแล้วขว้างให้มากๆ และวิ่งให้มากๆ ออกมาแล้วเล่นให้มีประสิทธิภาพ นั่นคือเกมป้องกันดีที่สุดในลีก'
เฮิร์ตส์ เป็นส่วนสำคัญในการใช้เกมวิ่งเล่นงานเกมป้องกันของ โฟร์ตี้นายเนอร์ส ซึ่งทีมบุกของ อีเกิ้ลส์ ทำระยะบุกภาคพื้นดินรวมกัน 148 หลา ซึ่งเป็นผลงานของจอมทัพวัย 24 ปี 39 หลา และทำสกอร์จากควอร์เตอร์แบ็กสนีคระยะหนึ่งหลาให้ทีมฟิลลี่ทำสกอร์นำห่างในช่วงท้ายควอเตอร์สาม
'พวกเขาเล่นเกมได้ดีมาก' เฮิร์ตส์ กล่าว 'พวกเขามีโค้ชที่ดีจริงๆ ผมพูดถึงเรื่องนี้มาตลอด เขาทำงานได้ดีกับพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกเขาในแดนหน้าและแนวรับที่รุกเข้าหาบอล เรารันบอลได้ดีจริงๆ พวกเขาทำแบบนั้นไม่ได้ พวกเขาไม่เปิดโอกาสให้เราในสนามมากนัก เรามีโอกาสขว้างแบบตัวต่อตัว แต่มันก็ถูกอัดหรือพลาดไปบ้าง'
'เราเอาสิ่งที่พวกเขามอบให้เรา มันจบลงด้วยการเป็นหนึ่งในเกมเหล่านั้น'
เฮิร์ตส์ ถือบอลวิ่งทำทัชดาวน์ที่ 15 ในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นการทำลายสถิติของ แคม นิวตัน อดีตควอร์เตอร์แบ็ก แคโรไลน่า แพนเธอร์ส ที่เคยทำมากสุด 14 สกอร์ในซีซั่นรุคกี้ของเขาเมื่อปี 2011
ทีมบุกของ อีเกิ้ลส์ โฟกัสไปที่เกมวิ่งเป็นหลักเพื่อฆ่าเวลาในการเผชิญหน้ากับทีมที่ไม่มีควอร์เตอร์แบ็กที่ขว้างบอลได้ดี หลัง บร็อค เพอร์ดี้ บาดเจ็บข้อศอกขวา ขณะที่ จอช จอห์นสัน ที่ลงเล่นแทนรุคกี้ดราฟท์รอบ 7 ก็บาดเจ็บเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามทีมบุกของ อีเกิ้ลส์ ต้องเผชิญความยากลำบากในการทำทัชดาวน์แรกของเกมในควอเตอร์แรก ก่อนบวกเพิ่มอีกสองสกอร์ในช่วงควอเตอร์สองที่ เฮิร์ตส์ มองว่าช่วงเวลานั้นเป็นข้อพิสูจน์ถึงการเติบโตของทีมฟิลลี่ในฤดูกาลนี้
'ผมคิดว่าบางครั้งเมื่อคุณมาถึงจุดนี้ของฤดูกาล เมื่อสิ่งต่างๆเริ่มตึงเครียด คุณต้องการสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ แต่ทั้งหมดนี้ต้องลงลึกไปถึงรายละเอียด ความใส่ใจในรายละเอียด, ไอคิวฟุตบอล และ พื้นฐานในการทำสิ่งที่ถูกต้อง' เฮิร์ตส์ กล่าว
เฮิร์ตส์ ยังคงรับมือกับอาการบาดเจ็บไหล่ขวา แต่จอมทัพวัย 24 ปีไม่เคยหวั่นไหวในการปะทะกับผู้เล่นเกมป้องกันตลอดทั้งเกม แม้จะมีหลายครั้งที่ควอร์เตอร์แบ็กฟิลลี่ลุกขึ้นมาอย่างเชื่องช้าหลังถูกอัดหลายครั้ง ซึ่งเป็นการย้ำเตือนถึงการเสียสละของ เฮิร์ตส์ ที่ทำในช่วงหลังของฤดูกาลก่อนนำ อีเกิ้ลส์ เข้าป้ายฐานะทีมอันดับ 1 ของฝั่งเอ็นเอฟซี รวมถึงเกมชิงแชมป์สายกับ โฟร์ตี้นายเนอร์ส
'ผมรู้ว่าตัวเองผ่านอะไรมามากมาย แต่ผมอยากชี้นำ (ไปสู่) ทิศทางว่าทีมนี้เล่นด้วยกันได้ดีเพียงใด, อยู่ด้วยกัน, ท้าทายซึ่งกันและกัน เมื่อเราประสบกับช่วงเวลาที่เจ็บปวดและช่วงเวลายากลำบาก เราหาทางเอาชนะได้เสมอ' เฮิร์ตส์ กล่าว 'คุณต้องการลงเล่นในสถานการณ์แบบนี้ และเรามีโอกาสจะออกไปที่นั่นและชนะมันทั้งหมด ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวที่จะทำสิ่งนั้น'
