ดีเร็ค คาร์ ควอร์เตอร์แบ็กวัย 31 ปีมีความสุขที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในองค์กร นิว ออร์ลีนส์ เซนต์ส หลังการเซ็นสัญญา 4 ปี มูลค่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ
ดีเร็ค คาร์ ควอร์เตอร์แบ็กวัย 31 ปีของ นิว ออร์ลีนส์ เซนต์ส เปิดเผยครั้งแรกหลังการเซ็นสัญญา 4 ปี มูลค่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐกับทีมนักบุญ นับตั้งแต่ถูก ลาส เวกัส เร้ดเดอร์ส ปล่อยตัวออกจากทีม ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
'มันสำคัญมาก' คาร์ กล่าว 'มันแสดงให้ผมเห็นว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรกับผมตั้งแต่เริ่มต้น พวกเขาซื่อสัตย์และชัดเจนมาก คุณได้ยิน ดี.เอ. (เดนนิส อัลเลน) และนั่นคือสิ่งที่เขาบอกผมทางโทรศัพท์ ความจริงที่ว่าพวกเขาเต็มใจที่จะเทรดผม นั่นหมายถึงบางอย่าง นั่นแสดงว่าคุณกำลังแสดงคุณค่าให้เห็น'
'คุณประเมินผมในฐานะควอร์เตอร์แบ็กและในฐานะมนุษย์คนหนึ่งโดยไม่ต้องพูดอะไรเลย นั่นหมายถึงบางอย่างและนั่นมีความหมายมาก เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของเราเมื่อย้อนกลับไปและอะไรทำนองนั้น แต่ครั้งนี้พวกเขาเป็นคนแรกที่นั่น ผมจำได้ว่า ทิม (ตัวแทน คาร์) โทรหาผมและบอกผม'
'เราเตรียมการมาเยือน และสิ่งเหล่านี้มีความหมายมาก เมื่อคุณเข้ามาในอาคารนี้และพบกับทุกคน และคุณคุยเรื่องฟุตบอลและไปทานอาหารเย็น จากนั้นคุณจะได้พบกับมิสซิส (เกย์ล) เบนสัน มันเหมือนกับคุณไม่มาที่นี่ได้อย่างไร? คุณกำลังมองหาสิ่งดีๆจากทุกที่ และที่อื่นๆก็มีสิ่งดีๆมากมาย แต่มันยากที่จะมองหาสถานที่ที่มีเกือบทุกอย่าง' คาร์ กล่าว
คาร์ ยังแสดงความตื่นเต้นที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมบุก เซนต์ส ที่มีชิ้นส่วนสำคัญพร้อมอยู่แล้ว โดยเฉพาะหนึ่งในปีกนอก ไมเคิ่ล โธมัส ที่เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาเลือก นิว ออร์ลีนส์ รวมถึงการพูดคุยกับ ดรูว์ บรีส์ และ อาร์ชี่ แมนนิ่ง
'ครั้งแรกที่ผมคุยกับเขาทางโทรศัพท์ ผมไม่คิดว่าเขาต้องการให้ผมปิดโทรศัพท์' คาร์ กล่าวถึงการพูดคุยกับ ดรูว์ บรีส์ และ อาร์ชี่ แมนนิ่ง ก่อนตัดสินใจเลือก เซนต์ส 'ผมสนุกกับการคุยกับเขามาก ผมบอก มิคกี้ (ลูมิส) ว่าคุณคุณกับ ไมค์ โธมัส คุณรู้สึกว่าคุณสองคนออกไปเผชิญโลกกว้างได้ ผมบอกภรรยาเมื่อวางสาย และแค่ถามว่า 'คุณยิ้มทำไม?' และผมก็เหมือน ผมรักชายคนนี้'
'เขามีการแข่งขันสูงมาก และผมคิดว่าพลังงานที่เขาส่งมา มันเป็นเวลาที่น่าตื่นเต้นมากที่จะขว้างบอลให้เขา ดังนั้นเมื่อเขาเริ่มคุยกับผม และทุกอย่างที่เขาไม่ได้พยายามจะจ้างผม เขาก็เหมือน 'เมื่อไหร่เราจะได้ทำงาน? เรากำลังเสียเวลา' และผมก็แบบว่า 'ผมรู้สึกแบบเดียวกัน แต่เราจะไปถึงที่นั่น' และผมคิดว่าความสัมพันธ์ของเราเติบโตขึ้นผ่านกระบวนการนี้ และผมหวังว่าจะทำให้ความสัมพันธ์แข็งแกร่งขึ้น'
