กุนซือชาวอิตาเลี่ยนทำผลงานได้ดีนับตั้งแต่เข้ามาแทนที่ เกรแฮม พ็อตเตอร์ เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ ไบรท์ตัน มีลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรป ขณะที่ทีมมีแนวทางการเล่นที่น่าตื่นเต้นอีกด้วย

พวกเขารั้งอันดับ 7 ในพรีเมียร์ลีก โดยมีแต้มตามหลัง สเปอร์ส ทีมอันดับ 4 อยู่ 7 คะแนน โดยมีเกมค้างมีอีกถึง 3 นัด และจะเผชิญหน้ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ ซึ่งมีโอกาสที่จะเป็นหนึ่งในฤดูกาลยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร

เด แซร์บี้ ได้รับคำชื่นชมอย่างมากในบ้านเกิดของเขา ซึ่งทั้ง ยูเวนตสุ, เอซี มิลาน และ อินเตอร์  ก็มีข่าวเชื่อมโยงด้วย

ไก่เดือยทอง ก็กำลังมองหาเจ้านายคนใหม่ หลังการจากไปของ อันโตนิโอ คอนเต้ ในขณะที่อาจมีความเคลื่อนไหวจาก เปแอสเช และ เรอัล มาดริด ด้วย

รูปแบบการสรรหานักเตะของ ไบรท์ตัน เป็นที่ชื่นชมทั่วยุโรปหลังพบผู้เล่นอย่าง มาร์ก กูกูเรย่า, อีฟส์ บิสซูม่า และ เลอันโดร ทรอสซาร์ ซึ่งต่างก็ขายได้กำไรมหาศาล ขณะที่ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์, มอยเซส ไกเซโด้ และ คาโอรุ มิโตมะ ต่างก็พร้อมสร้างเงินก้อนโตหากพวกเขาจากไปในช่วงซัมเมอร์นี้

ไบรท์ตัน ไม่ยอมขาย ไกเซโด้ ท่ามกลางความสนใจจาก อาร์เซน่อล และ เชลซี ซึ่งทำให้เกิดความมั่นใจ และผลการแข่งขันที่น่ายินดี โดยที่ เด แซร์บี้ ยืนกรานเป็นการส่วนตัวว่าไม่ควรขายเขาออกไประหว่างซีซั่น

อย่างไรก็ตาม เป็นที่คิดว่า เด แซร์บี้ กำลังผลักดันที่จะทำให้ตัวเองมีส่วนร่วมในการควบคุมการซื้อขายนักเตะของทีมมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ภายใต้การทำงานกับ โทนี่ บลูม

วิธีการของ ไบรท์ตัน คือให้โค้ชรับผิดชอบการซ้อม, การเลือกทีม และแท็คติก ในขณะที่ปล่อยให้แมวมอง และการสรรหาเป็นหน้าที่ของคนอื่น