อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือ ยูฟ่า ได้รับเลือกให้ดูแลรับผิดชอบการบริหารองค์กรฟุตบอลชั้นนำของยุโรปและงานส่วนใหญ่ในระยะสั้นของเขาคือการต่อสู้กับโปรเจ็กท์ ซูเปอร์ลีก โดยประธานวัย 55 ปีได้กล่าวขอบคุณการสนับสนุนของ นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ในฐานะประธานสมาคมสโมสรยุโรป (ECA) พร้อมระบุถึงแนวทางการผลักดัน ยูฟ่า เดินหน้าต่อไปในอนาคต ตามรายงานจากมาร์ก้าเมื่อวันพุธที่ผ่านมา 

'ฟุตบอลเป็นกีฬาของผู้คน การแปรรูปฟุตบอลเป็นตำนานและเป็นสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลง ลีกและการแข่งขันเป็นรากฐานของโปรเจ็กท์ของเรา เราได้รับการสนับสนุนจาก ECA และเราขอขอบคุณ อัล-เคไลฟี่ หากช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนเพิ่มขึ้น ในวงการฟุตบอลและในสังคม แบบจำลองนี้อาจใช้ไม่ได้ ต้องทำอะไรสักอย่างสำหรับชนชั้นกลาง เราได้เพิ่ม (จำนวนของ) การแข่งขันสำหรับสิ่งนี้ อย่างเช่น คอนเฟอเรนซ์ ลีก'

เซเฟริน ยังกล่าวขอบคุณ อัล-เคไลฟี่ อีกครั้งภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์ของเขา ซึ่งเป็นประธานสมาคมสโมสรยุโรป และซีอีโอของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 

'มันเป็นเรื่องดีที่รู้ว่าเราสามารถวางใจในการสนับสนุนของ ECA และผมอยากจะขอบคุณ นาสเซอร์ สำหรับเรื่องนั้น ขอบคุณ, นาสเซอร์ และขอบคุณสโมสรใน ECA สำหรับความไว้วางใจ, ความร่วมมือ และสำหรับผลงานดีๆที่ทำร่วมกัน'

คำแถลงการณ์ของ เซเฟริน ที่ระบุว่าช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนจะต้องไม่เพิ่มขึ้น ในขณะที่การกล่าวขอบคุณ อัล-เคไลฟี่ แม้ว่าไม่มีทีมใดทำได้มากกว่า เปแอสเช ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนแทบจะผูกขาด ลีก เอิง ในขณะนี้ 

คำกล่าวเปิดงานของ เซเฟริน โฟกัสไปที่ความสำเร็จขององค์กรเล็กๆก่อน โดยเน้นถึงข้อดีที่พวกเขานำมาสู่เกมและใช้เป็นหลักฐานยืนยันถึงสุขภาพของฟุตบอล

'มันเป็นพิภพเล็กๆของสังคมของเราและเรารู้ดี มันคือบทเรียนชีวิต และคุณไม่ต้องดูที่ไหนไกลเพื่อดูว่าจริงเท็จแค่ไหน แค่เพียงไม่กี่ตัวอย่าง'

'ฟุตบอลคือ ไอซ์แลนด์ ประเทศที่มีประชากรน้อยกว่า 400,000 คน เข้ารอบรองชนะเลิศของศึกยูโร 2016 ฟุตบอลคือ เดนมาร์ก ที่มีประชากร 6 ล้านคน เข้ารอบรองชนะเลิศของศึกยูโร 2021 ฟุตบอลคือโครเอเชียที่มีประชากรน้อยกว่า 4 ล้านคน เข้ารอบรองชนะเลิศของฟุตบอลโลก 2 ครั้งติดต่อกัน'

'ฟุตบอลคือ บียาร์เรอัล เมืองที่มีประชากร 50,000 คนคว้าแชมป์ ยูโรปาลีก หลังการเอาชนะทีมฟุตบอลยักษ์ใหญ่ของยุโรปที่มีมหาเศรษฐีเป็นเจ้าของ ฟุตบอลคือ เอฟซี เชรีฟฟ์ ผู้ชนะแชมเปี้ยนส์ลีกที่บ้านของสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก'

'นั่นคือฟุตบอล นั่นคือฟุตบอลยุโรป สวย, สุดยอด แต่เราต้องไม่ลืมว่าฟุตบอลนั้นเปราะบางแค่ไหน'

มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ เซเฟริน เน้นถึงความสำเร็จระดับนานาชาติ และความสำเร็จของสองสโมสร แม้ว่าชัยชนะของ เชรีฟฟ์ เหนือ เรอัล มาดริด จะเป็นเหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อ แต่มันเป็นเพียงเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายที่มีความหมายเพียงเล็กน้อยสำหรับทีมชุดขาว และทำให้ เชรีฟฟ์ ได้รับรางวัลไม่มากนัก

อย่างไรก็ตามถ้อยแถลงของ เซเฟริน ยังคงปกป้องเกมจากการแปรรูป, กระแสโลกาภิวัตน์ และกองทุนเพื่อการลงทุนที่มุ่งหน้าสู่วงการฟุตบอลในปัจจุบัน

'ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นภูมิทัศน์ของฟุตบอลยุโรปเปลี่ยนไปจนจำไม่ได้ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนสังคม สโมสรถูกซื้อโดยกองทุนการลงทุน อัตลักษณ์ท้องถิ่นสูญหายไป ค่าใช้จ่ายพุ่งสูงขึ้น และบางสโมสรดำเนินกิจการด้วยความเสี่ยงถึงขั้นประมาทเลินเล่อ ซึ่งท้าทายตรรกะและหลักการทั้งหมด'

'เรากำลังเผชิญกับกระแสโลกาภิวัตน์ที่ควบรวมไปด้วยทั้งหมดนี้ ผลประโยชน์และความเสี่ยง'

'เราต้องไม่ลืมว่าฟุตบอลเป็นสาธารณประโยชน์ เป็นส่วนหนึ่งของมรดกของเรา เป็นหนึ่งในสินค้าสาธารณะชิ้นสุดท้ายที่ยังไม่ได้แปรรูป ดังนั้นมันจึงไม่เป็นของใคร แต่เป็นของทุกคน ถึงนักเตะ, โค้ช, ผู้ตัดสิน, แฟนบอล และอาสาสมัคร มันเป็นของทุกคนที่รัก, รักและจะรักฟุตบอลจากรุ่นสู่รุ่น'