เลอบรอน เจมส์ นำ แอลเอ เลเกอร์ส ปรากฎตัวต่อหน้าฝูงชนรอบเพลย์ออฟที่ตั๋วขายหมดเกลี้ยงครั้งแรกในรอบทศวรรษของแฟรนไชส์นี้และสร้างหนึ่งในควอเตอร์แรกยิ่งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์เอ็นบีเอนำทีม 'ม่วง-ทอง' ชนะ เมมฟิส กริซซลี่ส์ 111-101 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาขึ้นนำ 2-1 เกมซีรี่ส์ ตามรายงานจากอีเอสพีเอ็น

เลเกอร์ส สร้างผลงานระดับประวัติศาสตร์ด้วยการขึ้นนำ 35-9 ในควอเตอร์แรก ก่อนจบเกมด้วยชัยชนะ 111-101 จากการทำ 31 คะแนนกับ 17 รีบาวน์ดของ แอนโธนี่ เดวิส, เจมส์ ทำ 25 คะแนน, 9 รีบาวน์ด กับ 5 แอสซิสต์ ขณะที่ แดนเจโล่ รัสเซลล์ และ ออสติน รีฟส์ ทำ 17 กับ 13 แต้มตามลำดับ ส่วน ริว ฮาชิมูระ ลุกจากม้านั่งสำรองลงมาช่วยทำ 16 คะแนนกับ 5 รีบาวน์ด

ด้าน จา โมแรนท์ การ์ดดาวดังของ เมมฟิส ทำมากสุด 45 คะแนน, 13 แอสซิสต์ กับ 9 รีบาวน์ด แต่ความพยายามดังกล่าวยังไม่พอต่อการแบกทีมเพียงลำพัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออีกหนึ่งตัวทำสกอร์สำคัญอย่าง ดิลล่อน บรู้กส์ ถูกไล่ออกเมื่อเข้าสู่ครึ่งแรกเพียง 17 วินาทีจากการเตะบริเวณขาหนีบของ เจมส์ จนกลิ้งไปบนพื้นคอร์ทด้วยความเจ็บปวด

'ผมจะไม่แถลงการณ์ใดๆ' เจมส์ กล่าว 'ผมทำสิ่งนี้มานานเกินไปแล้ว ผมไม่ได้ออกแถลงการณ์ใดๆ เรามีโอกาสกลับบ้านและเล่นได้ดีในบ้านของเรา และเราทำอย่างนั้น ไม่มีการแถลงใดๆ เราแค่ต้องการเล่นให้ดี และเราได้รับชัยชนะ ผมไม่จำเป็นต้องออกแถลงการณ์'

โมแรนท์ กลับมาจากการบาดเจ็บมือขวา เขาทำ 45 คะแนน ซึ่งรวมถึงการทำ 22 แต้มติดต่อกันในช่วงควอเตอร์สุดท้าย ในขณะที่พวกเขาพยายามไล่จากการตามหลัง 29 คะแนนตั้งแต่ช่วงต้นเกม แต่ยังไม่เพียงพอต่อการพลิกสถานการณ์ 

แฟนๆ เลเกอร์ส ยังมีส่วนกดดัน บรู้กส์ ด้วยการโห่ใส่ทุกการเคลื่อนไหวของเขาจนชู้ตลงเพียง 3 จาก 13 ครั้งจนกระทั่งถูกไล่ออก หลังฟอร์เวิร์ดวัย 27 ปีของ เมมฟิส สร้างความเดือดดาลให้แฟนทีม 'ม่วง-ทอง' ด้วยการเรียก เจมส์ ว่าแก่และยังดูแคลนความสามารถของฟอร์เวิร์ดลายครามด้วย

ส่วน ดาร์วิน แฮม เฮดโค้ช เลเกอร์ส กล่าวหลังเกมว่า 'ผมคิดว่าฝูงชนของเราเป็นปรากฎการณ์ รู้สึกถึงพวกเขาในอาคารจริงๆ ขอบคุณพระเจ้าที่เรามอบบางอย่างให้พวกเขาได้ชื่นชมยินดีในแนวทางที่เราทำออกมา'