เริ่มเกมมาเพียง 2 นาที แอต.มาดริด ได้ประตูนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ยานนิค การ์ราสโก้ ลุยเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายแต่หาช่องยิงไม่ได้จึงไหลให้ อองตวน กรีซมันน์ ตวัดยิงด้วยซ้ายส่งบอลพุ่งเข้าเสาไกลสวยงาม

นาที 21 กาดีซ ส่งบอลตุงตาข่ายได้ในจังหวะฟรีคิกทางฝั่งขวาที่ ซานติอาโก้ อาร์ซาเมนเดีย เปิดเข้าเขตโทษให้ มามาดู เอ็มบาย สอดมาโขกโล่งๆ ตุงตาข่าย ทว่าลูกนี้ เอ็มบาย ล้ำหน้าชัดเจนจึงไม่ได้ประตูตีเสมอ

พอทำไม่ได้กลับเป็นเจ้าถิ่นที่หนีเป็น 2-0 ในนาที 27 จากความสุดยอดของ กรีซมันน์ ที่พาบอลลุยทางขวาจนเข้าเขตโทษก่อนทำชิ่งกับ โตมาส์ เลอมาร์ แล้วยิงด้วยซ้ายส่งบอลพุ่งเสียบเสาอย่างแม่นยำ 

ครึ่งหลังนาที 49 ตราหมี นำเพิ่มเป็น 3-0 มารีโอ เอร์โมโซ่ หยอดบอลจากเขตโทษฝั่งซ้ายข้ามาฝั่งขวาให้ อัลบาโร่ โมราต้า ดึงบอลลงก่อนซัดด้วยขวาเน้นๆ ไม่เหลือซาก

นาที 57 แอต.มาดริด มาได้จุดโทษหลังผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ชี้ขาดว่าจังหวะพุ่งสไลด์บอลของ รูเบน อัลการาซ ผู้เล่นทีมเยือนเป็นการแฮนด์บอล ยานนิค การ์ราสโก้ รับหน้าที่ยิงเข้าไปเป็น 4-0 

ตราหมี เกือบได้จุดโทษและประตูในนาที 69 เมื่อ อัลบาโร่ โมราต้า เบียดกับ มามาดู เอ็มบาย จนล้มทั้งคู่ บอลเด้งเข้าทาง นาอวล โมลีน่า ได้วิ่งมาซ้ำในเขตโทษ บอลแฉลบผุ้เล่นทีมเยือนออกหลังไปนิดเดียว ขณะที่ผู้ตัดสินก็ไม่ได้เป่าจังหวะล้มของ โมราต้า ว่าเป็นจุดโทษแต่อย่างใด

ทีมเยือนตีไข่แตกได้ในนาที 72 อันโธนี่ โลซาโน่ ฉีกไปรับบอลทางซ้ายก่อนตีดสินใจส่องไกลระยะ 25 หลา บอลพุ่งวาบเสียบตาข่ายอย่างสวยงามเปลี่ยนสกอร์เป็น 4-1

ทว่า กาดีซ ก็ดีใจได้เพียงนาทีเดียวเพราะ แอต.มาดริด ฉีกหนีเพิ่มเป็น 5-1 ได้ทันควัน โรดรีโก้ เด ปอล แทงบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ นาอวล โมลีน่า มองเข้ากลางทำท่าจะเปิดแต่เลือกยิงเองซัดเข้าเสาแรกระยะเผาขน

จากนั้นจบเกม แอต.มาดริด เอาชนะ กาดีซ 5-1 เก็บเพิ่มเป็น 69 คะแนน พร้อมแซงหน้า เรอัล มาดริด ขั้นไปรั้งรองจ่าฝูงได้สำเร็จจากการแข่ง 33 นัดเท่ากัน