นักลงทุนถือถือหุ้น แมนฯ ยูไนเต็ด ไว้ในตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก มีอันต้องเอาเท้าก่ายหน้าผากเพราะราคาปิดตลาดล่าสุด รอบวันร่วงลงมาถึง 18.22% เป็นครั้งหนักหน่วงสุดตลอดปีที่ผ่านมา ผลพวงจากกระแสข่าวว่าโต๊ะเจรจาเรื่องเทคโอเวอร์พับเก็บแล้ว
รายงานจาก ‘สกาย สปอร์ตส์’ ว่าราคาหุ้นของ ยูไนเต็ด ที่วอลล์สตรีทเมื่อปิดตลาด 5 ก.ย.(ท้องถิ่น)เหลือแค่ 19.35 เหรียญ สหรัฐฯ ร่วงแรงจาก 22.76 เหรียญ สหรัฐฯ-ต่อ-หุ้นแบบฮวบฮาบ
ผลสืบเนื่องจากรายงานข่าวที่ว่าตระกูลเกลเซอร์เจ้าของทีมปัจจุบันซึ่งเคยประกาศหาความร่วมมือทางพันธมิตร/พร้อมเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นใหญ่ ล้มเลิกความตั้งใจดังกล่าว ทั้งที่เจรจายืดเยื้อข้ามปีกับผู้สนใจอย่างกลุ่มของ ชีค ยัสซิม บิน ฮาหมัด อัล-ตานี่ และกลุ่มเซอร์ จิม แร็ตต์คลิฟฟ์
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ถูกการขยับตัวของตระกูลเกลเซอร์ทำลายลง ส่งผลให้เกิดการเทขายหุ้น แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างรุนแรงในรอบ 2-3 วันมานี้ จนสร้างฟลอร์ครั้งใหม่รอบปี
https://twitter.com/SkySportsPL/status/1699162022254874687
ราคาหุ้น 19.35 เหรียญ สหรัฐฯ ทางนักวิเคราะห์มองว่ายังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของขาลง โดยรอบสัปดาห์จากนี้อาจรีบาวน์ดขึ้นมาเล็กน้อยแล้วค่อยร่วงลงไปอีกผลสืบเนื่องข่าวเชิงลบกระทบภาพลักษณ์ของนักเตะอย่าง อันโตนี่ ถูกกล่าวทำร้ายร่างกายแฟนสาว หรือดราม่าสาดโคลนระหว่างผจก.ทีม เอริก เทน ฮาก กับ เจดอน ซานโช่
มีการพยากรณ์ว่าเมื่อสิ้นปี 2023 มีโอกาสที่หุ้น ยูไนเต็ด จะหล่นไปใกล้เคียง 13.03 เหรียญ สหรัฐฯ-ต่อ-หุ้น เหมือนศักราชที่แล้วก่อนประกาศหาความร่วมมือทางพันธมิตรด้วยซ้ำ
