เคลย์ เบนเน็ตต์ ประธานทีม โอคลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์ ยืนยันว่าแฟรนไชส์ของเขายังต้องการต่อยอดกับเมือง โอคลาโฮม่า ซิตี้ ภายใต้โปรเจ็กท์การสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่มูลค่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อล็อคแฟรนไชส์ ธันเดอร์ อยู่กับเมืองแห่งนี้จนถึงปี 2050 ตามรายงานจาก เอ็นบีซี สปอร์ตส์ 

โอคลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์ เป็นแฟรนไชส์ที่มีสนามเล็กที่สุดในเอ็นบีเอ และยังเป็นสนามที่เก่าแก่มาก ก่อน เดวิด โฮลท์ นายกเทศมนตรีจะประกาศแผนการสร้างสนามแห่งใหม่มูลค่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งด้วยเช่นกัน

'ผ่านมา 15 ปีแล้วที่ ธันเดอร์ ได้รับเกียรติในการช่วยเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงของ โอคลาโฮม่า ซิตี้ และเพิ่มความภาคภูมิใจอย่างมากที่พลเมืองของเรามีในชุมชนของพวกเขา' เบนเน็ตต์ กล่าวในแถลงการณ์

'ตอนนี้เรามีโอกาสที่จะต่อยอดความก้าวหน้าดังกล่าว พัฒนาสถานะของเราในฐานะเมืองลีกใหญ่อย่างแท้จริง พัฒนาเศรษฐกิจของเราต่อไป และรักษาอนาคตระยะยาวของ ธันเดอร์ เราหวังว่าจะได้สานต่อความร่วมมือกับนายกเทศมนตรี โฮลท์, สมาชิกสภาเมือง และธุรกิจที่มีความคิดก้าวหน้าและผู้นำพลเมืองในชุมชนของเรา เมื่อร่วมมือกันเราสามารถพัฒนาเวทีเพื่อใช้เป็นความสำเร็จอันยอดเยี่ยมในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาที่กำลังดำเนินอยู่ของ โอคลาโฮม่า ซิตี้'

ธันเดอร์ จะมีส่วนร่วมลงทุนสร้างสนามใหม่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเงินส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากภาษีแท็กซ์หนึ่งเปอร์เซ็นต์ใน 6 ปีข้างหน้า ซึ่งจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งจะมีการเลือกตั้งพิเศษในเมืองนี้วันที่ 12 ธันวาคมเกี่ยวกับภาษี และจะต้องได้รับการอนุมัติจากเสียงข้างมาก โปรเจ็กท์ดึงกล่าวจึงจะมีผล

อย่างไรก็ตามแฟนๆจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับการนำเงินภาษีไปลงทุนสร้างสนามใหม่ โดยมีการตั้งคำถามว่าเหตุใดผู้เสียภาษีจึงควรช่วยจัดหาเงินทุนแก่มหาเศรษฐีที่เป็นเจ้าของทีม ซึ่งกลุ่มเจ้าของทีม ธันเดอร์ ซื้อแฟรนไชส์มาจาก ซีแอตเทิ่ล ซูเปอร์ โซนิกส์ ในราคา 350 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนจะย้ายมา โอคลาโฮม่า ซิตี้ ปัจจุบันแฟรนไชส์แห่งนี้มีมูลค่า 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐจากข้อมูลของนิตยสาร ฟอร์บส์