ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก

วันอังคารที่ 3 เมษายน 2561

ยูเวนตุส (อิตาลี) 0 - เรอัล มาดริด (สเปน) 3 

สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า 

"ม้าลาย" ยูเวนตุส ขาด  มิราเล็ม ปานิช กองกลาง กับ เมห์ดี้ เบนาเตีย กองหลัง ที่ติดโทษแบน แนวรุกวาง กอนซาโล่ อิกวาอิน กับ เปาโล ดีลาล่า คอยเข้าทำ ส่วน "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เรียกตัวหลักที่ได้พักเกมลีกกลับมาคืนตัวจริง และเป็นผู้เล่น 11 คนชุดเดิมที่เคยเอาชนะยูเวนตุสในรอบชิงชนะเลิศปีที่แล้ว 

เริ่มเกมมาเพียง 3 นาทีแรก เรอัล มาดริด ออกนำ 1-0 รวดเร็วเมื่อ อีสโก้ ได้บอลหลุดขึ้นทางซ้ายก่อนเลี้ยงจี้และผ่านให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งโฉบตัดหน้ากองหลังเจ้าถิ่นก่อนจิ้มบอลด้วยขวาเปลี่ยนทางเข้าเสาไกลอย่างเด็ดขาด เป็นประตูที่ 13 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ของเจ้าตัวอีกด้วย

เรอัล มาดริด ได้โอกาสอีกในนาทีที่ 111 โทนี่ โครส โยนลูกเตะมุมจากทางด้านขวาให้ ราฟาแอล วาราน ทะยานขึ้นโหม่งบอลข้ามคานไป 

ผ่านมา 23 นาที ยูเว่ น่าจะได้ประตู เมื่อ เปาโล ดีบาล่า โยนฟรีคิกให้กับ กอนซาโล่ อิกวาอีน ยิงด้วยขวากลางกรอบเขตโทษ แต่ เกย์ลอร์ นาวาส นายทวารเรอัล มาดริด ซูเปอร์เซฟได้สำเร็จ 

จากนั้นนาทีที่ 36 เรอัล มาดริด น่าจะได้ประตูที่สอง เมื่อ คาริม เบนเซม่า เปิดคืนหลังให้กับ โทนี่ โครส มิดฟิลด์ชาวเยอรมัน วิ่งมาตะบันด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลพุ่งชนคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย 

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เปาโล ดีบาล่า ลากเข้ากรอบเขตโทษแล้วล้มลงไป ผู้เล่นยูเว่ ร้องจะเอาจุดโทษ แต่ผู้ตัดสิน คูเนย์ต ชาคีร์ มองว่า ดีบาล่า แกล้งพุ่งล้มและแจกใบเหลืองให้แข้งอาร์เจนไตน์ จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำ ยูเวนตุส 1-0

กลับมาลุยต่อครึ่งหลัง นาที 54 เปาโล ดีบาล่า ของไอ้ม้าลาย ลากบอลมาโดน เซร์คิโอ รามอส กองหลังราชันชุดขาว เสียบจากทางด้านหลังล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าทันที พร้อมชักใบเหลืองให้กับ รามอส ด้วย ทำให้นัดที่สอง รามอส จะชวดลงสนาม จากลูกฟรีคิก ดีบาล่า ปั่นด้วยซ้ายบอลแฉลบกำแพงหลุดกรอบไปชนิดได้ลุ้นทีเดียว 

นาทีที่ 64 มาดริด หนีเป็น 2-0 เมื่อ คิเอลลินี่ สไลด์บอลคืนหลังให้กับ บุฟฟ่อน แต่ไม่รู้กัน เลยโดน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตามไปเก็บบอลจากสุดเส้นหลังแล้วจ่ายคืนให้ ลูกัส บาซเกซ ที่ลงมาสำรอง ซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟของ บุฟฟ่อนบอลไม่พ้นอันตรายเข้าทาง ดาเนียล การ์บาฆาล โยนจากกราบขวาให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตีลังกายิงลูกจักรยานอากาศด้วยขวา บอลเข้าประตูไปอย่างสวยงามสุดๆ เป็นประตูที่ 2 ของโรนัลโด้ ในเกมนี้ และเป็นประตูที่ 14 ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ 

อีก 2 นาทีถัดมา สถานการณ์ของเจ้าถิ่นย่ำแย่หนักเมื่อ เปาโล ดีบาล่า โดนเหลืองที่ 2 หลังกระโดดเข้าหาบอลและยกเท้าสูงใส่ การ์บาฆาล ทำให้กลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกไป และจะพลาดช่วยทีมในนัดสอง 

สกอร์ไหลเป็น 3-0 เมื่อ มาร์เชโล่ ทำชิ่งกับ อีสโก้ ก่อนชิ่งอีกทีให้ โรนัลโด้ ที่ไหลทะลุให้แบ็กซ้ายบราซิเลียนหลุดเดี่ยวเข้าไปจิ้มติดขา บุฟฟ่อน นิดนึง แต่กลายเป็นดีบอลลอยขึ้นก่อนวิ่งตามกระแทกเบาๆ เข้าไป

เกมเหมือนจบในทันที ยูเวนตุส ไม่สามารถทำอะไรได้เลยในช่วงเวลาที่เหลือ ขณะที่ เรอัล มาดริด ก็ปิดเกมได้สนิท ไม่เร่งจังหวะมากนัก ทำให้จบเกม เรอัล มาดริด บุกชนะ ยูเวนตุส 3-0 โอกาสเข้ารอบรองชนะเลิศสดใส แถมยังได้กลับไปเล่นในบ้านตัวเองในนัดสอง วันพุธที่ 11 เม.ย. นี้ อีกต่างหาก