ท้ายครึ่งแรกเกทที่ ปาร์เก้น ทีมเยือนเหลือ 10 คนเมื่อ แรชฟอร์ด ทำฟาวล์ เอเลียส  เยเลิร์ต ผู้ตัดสิน โดนาตาส รัมซาส จากลิทัวเนีย ไปดูจอ วีเออาร์ ก่อนกลับมาแจกแดงกองหน้าวัย 26 ปีเพราะย่ำไปที่ข้อเท้าคู่แข่ง

ส่งผลให้ 10 ตัวของ ยูไนเต็ด ต้านไม่ไหวทิ้งความได้เปรียบนำ 2-0 กลับไปแพ้ 3-4 จนบ๊วยกรุ๊ป เอ สุ่มเสี่ยงตกรอบน็อคเอาต์เพราะมีคิวหวด กาลาตาซาราย (เยือน) และ บาเยิร์น มิวนิค (เหย้า) คอยท่า 

วนกลับมายังประเด็นถกเถียงเรื่องใบแดงของ ‘แรช’ ทาง ซาเวจ แห่ง ‘ฟุตบอล ออน ทีเอ็นที สปอร์ตส์’ บอกตัดสินอย่างเที่ยงตรง 

“ส่วนตัวผมมองว่าเป็นใบแดง เมื่อคุณดูเหตุการณ์ เขาพยายามบังบอลอย่างเดียวก็ได้ แต่กาเอาเท้าซ้ายไปย่ำใส่คู่แข่งแบบนั้นยังไงก็ไล่ออกโดยตรง” อดีตกองกลาง ยูไนเต็ด ไม่เข้าข้างรุ่นน้อง

“ใบแดง 100%” 

ส่วนฝ่ายเห็นต่างนำโดย เจมี่ คาร์ราเกอร์ แห่ง ‘ซีบีเอส สปอร์ตส์’ ทวีตผ่านบัญชี @Carra23 ว่า “ไม่มีทางเป็นใบแดงของ แรชฟอร์ด ผมเกลียดการทำบันทึกภาพย้อนหลังแล้วเล่นแบบช้าๆ และภาพนิ่งเหตุการณ์ที่แคปมา เพราะยิ่งส่งผลให้มันออกมาดูแย่ลง 10 เท่า”

https://twitter.com/Carra23/status/1722354880126361998

ขณะที่ในสตูดิโอออกอากาศทีมวิเคราะห์อย่าง โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ และ พอล สโคลส์ ก็มองว่าการไล่ แรชฟอร์ด โหดร้ายไป 

“เล่นกี่ชาติมันไม่มีทางเป็นใบแดง เขาแค่พยายามยกเท้าขึ้นแล้วพลาดไปย่ำใส่” ฮาร์กรีฟส์ จาก ‘ฟุตบอล ออน ทีเอ็นที สปอร์ตส์’ กล่าว

“หน้างาน แรชฟอร์ด ไม่ได้พยายามทำฟาวล์คู่แข่ง แม้ภาพออกมาดูแย่แต่ไม่ได้เพราะประสงค์ร้าย มันไม่ใช่ใช่การเล่นฟาวล์รุนแรง” 

ปิดท้ายมุมมองจาก พอล สโคลส์ ว่าหอกผู้ดีไม่น่ามีเจตนา 

“มันคืออุบัติเหตุ เขาพยายามบังบอล หาเหลี่ยมปักเท้า นี่คือจุดที่ผู้ตัดสินซึ่งเข้าใจเกมจำเป็นต้องเอาเคสนี้ไปพิจารณาให้เหมาะ” 

ตามปกติใบแดงตรงบนชปล.แบน 2 นัด นั่นหมายความว่า แรชฟอร์ด จะไม่ได้เล่นกรุ๊ป สเตจ กลุ่ม เอ ซีซั่นนี้อีก