เอ็ดดี้ ฟอล์คเนอร์ โค้ชรันนิ่งแบ็กที่ก้าวขึ้นมาดูแลทีมบุกของ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ชั่วคราวหลังการปลด แม็ตต์ แคนาดา ออกจากตำแหน่งยอมรับว่าทุกคนของทีมบุกยังทำได้ไม่ดีพอจนทำให้เพื่อนของเขาตกงานในท้ายที่สุด ตามรายงานจากอีเอสพีเอ็นเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา 

ฟอล์คเนอร์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมสตาฟฟ์โค้ชของ สตีลเลอร์ส ตั้งแต่ปี 2019 และเป็นเพื่อนสนิทของ แคนาดา หลังเคยร่วมงานกันครั้งแรกที่ นอร์ทเธิร์น อิลินอยส์ เมื่อปี 2011 กล่าวว่า 'ผมไม่สามารถพูดถึง แม็ตต์ แคนาดา ได้ดีพอ'

'มันออกจะหวานอมขมกลืนนิดหน่อยที่มันเป็นแบบนั้น เพราะเมื่อคุณนั่งลงและเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น และทุกอย่างที่ถูกพูดถึงเกี่ยวกับเขาและทีมบุก พวกเราทุกคน และผมกำลังพูดถึงทีมบุกเมื่อผมพูดแบบนี้กับสตาฟฟ์ เราทุกคนรู้สึกว่าเราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น ไม่มีใครให้อภัยตัวเองจากสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องนั้น เรารู้สึกเหมือนเราทำให้เขาผิดหวัง' 

'ผมต้องพูดแบบนั้นเพราะนั่นคือสิ่งที่คนจริงจะทำ นั่นคือเพื่อนของผม และนั่นจะไม่เปลี่ยนแปลง'

ไมค์ ทอมลิ่น เฮดโค้ช สตีลเลอร์ส กล่าวก่อนหน้านี้ว่าเขาได้ทำการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการปรับปรุงทีมบุกไม่รวดเร็วพอหรือสม่ำเสมอเพียงพอภายใต้การดูแลของ แคนาดา ก่อน ฟอล์คเนอร์ จะเผยว่ามันไม่มีความจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงแท็คติกที่สำคัญใดๆในทีมบุกช่วง 7 เกมสุดท้ายของช่วงฤดูกาลปกติ 

'คุณไม่สามารถทำแบบนั้น คุณรู้ไหมว่าผมหมายถึงอะไร?' ฟอล์คเนอร์ กล่าว 'เราอยู่ในช่วงกลางฤดูกาล ผมหมายความว่าคุณต้องทำสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ วางแผนเกมด้วยกัน สิ่งที่คนของเราสามารถทำได้ เราจะทำสิ่งนั้นต่อไป'

เหตุผลที่ ทอมลิ่น เลือก ฟอล์คเนอร์ ขึ้นมาดูแลทีมบุกมาจากน้ำเสียงและพฤติกรรมที่มั่นคง รวมถึงการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติของเขาระหว่างการทำงานในฐานะโค้ชรันนิ่งแบ็ก

'สำหรับผม นั่นคือสิ่งที่มันเป็นมาตลอด' ฟอล์คเนอร์ กล่าว 'การส่งผลกระทบต่อชีวิต การมีส่วนร่วมกับคนเหล่านั้น และฟุตบอลจะเป็นผลพลอยได้จากการพัฒนาสิ่งนั้น'