นาโปลี ได้ประตูนำ 1-0 ในนาที 9 มัตเตโอ โปลิตาโน่ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนปาดบอลเข้ากลาง เซอร์ดาร์ ซาตชี่ พยายามสกัดแต่ผิดเหลี่ยมบอลเด้งชนคานกระดอนพื้น แม้ มาเธอุส ลีม่า จะควักออกมา แต่ผู้ตัดสินได้สัญญาณว่าบอลข้ามเส้นไปแล้วจึงเป็นประตูของเจ้าถิ่น

บราก้า มีโอกาสจะแจ้งที่จะตีเสมอในนาที 25 เมื่อ โรดรีโก้ ซาลาซาร์ เปิดบอลให้ ริคาร์โด้ ฮอร์ต้า ซัดด้วยขวาหน้าเขตโทษ อเล็กซ์ เมเร็ต ต้องออกแรงเซฟช่วย นาโปลี เอาไว้ได้ 

เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายหนี 2-0 ในนาที 33 จากการต่อบอลกันสวยทางฝั่งซ้ายก่อนเป็น นาตาน หลุดเข้าเขตโทษแล้วเปิดให้ โอซีเมน แม้บอลย้อนหลังไปนิด แต่ โอซีเมน ก็เกี่ยวซ้ายไปโดนขาขวาตัวเองก่อนบอลเด้งข้ามตัวผู้รักษาประตูเข้าไป 

ครึ่งหลัง นาโปลี เกือบได้ประตูที่สามในนาที 65 เมื่อ ฟร็องค์ อ็องกีสซ่า มีจังหวะซัดเหน่งๆ ในเขตโทษ แต่ว่าติดเซฟ บอลจังหวะสองเป็น โอซิเมน ได้ตีลังกายิงแต่โดนไม่เต็มจึงพลาดได้ประตู

นาที 73 นาโปลี เกือบได้อีกประตู จาโคโม่ ราสปาโดรี่ ผ่านบอลไปถึง ควีช่า ควารัตส์เคเลีย  ได้ซัดด้วยซ้ายในเขตโทษฝั่งซ้าย แต่ว่า มาเธอุส ลีม่า ยังยืนตำแหน่งดีเซฟช่วยทีมเยือนไม่ให้โดนเพิ่ม 

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นอีก นาโปลี จึงชนะไป 2-0 ได้เข้ารอบน็อกเอาต์ตามหลัง เรอัล มาดริด ที่ทิ้งทวนนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มด้วยการบุกชนะ  อูนิโอน เบอร์ลิน 3-2 

เจ้าถิ่น อูนิโอน นำก่อนจาก เควิน โฟลลันด์ ในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก หลัง ลูก้า โมดริช ยิงจุดโทษพลาดก่อนหน้านั้น ก่อนทัพราชันได้ โฆเซลู เหมายิงสองประตูในนาที 61 และ 72 แซง 2-1 จากนั้น อูนิโอน ตามตีเสมอ 2-2 จาก อเล็กซ์ คราล ในนาที 85 ทว่าก่อนจบเกมนาทีเดียว ทีมดังจากสเปนก็ยังฮึดยิงประตูชัยได้จาก ดานี่ เซบายอส เบียดคว้าชัยชนะหวุดหวิด 

บราก้า จึงจบอันดับ 3 ของกลุ่มด้วยการมี 4 คะแนน ได้ไปเล่นยูโรปา ลีก ส่วน อูนิโอน เบอร์ลิน จบบ๊วย ตกรอบและไม่ได้ไปต่อรายการใด