สตัมป์ มิตเชลล์ กลายเป็นอดีตโค้ชรันนิ่งแบ็กของ คลีฟแลนด์ บราวน์ส หลังถูกปลดออกจากตำแหน่งเช่นเดียวกับโค้ชปีกใน ที.ซี.แม็คคาร์ทนี่ย์
เควิน สเตฟานสกี้ หัวหน้าโค้ช คลีฟแลนด์ บราวน์ส ตัดสินใจปรับเปลี่ยนสตาฟฟ์โค้ชทีมบุกหลังการตกรอบเพลย์ออฟด้วยการปลดโค้ชรันนิ่งแบ็ก สตัมป์ มิตเชลล์ และโค้ชปีกใน ที.ซี.แม็คคาร์ทนี่ย์ ออกจากตำแหน่ง ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา
บราวน์ส ทำผลงานน่าประทับใจในช่วงฤดูกาลปกติทั้งที่เผชิญปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บมากมาย แต่เส้นทางของ คลีฟแลนด์ สิ้นสุดเพียงเพลย์ออฟรอบไวลด์คาร์ด หลังการปราชัยต่อ ฮิวสตัน เท็กแซนส์ นำมาซึ่งการตัดสินใจเปลี่ยนสตาฟฟ์โค้ชทีมบุกบางส่วนของ สเตฟานสกี้
สเตฟานสกี้ ตัดสินใจปลดทั้ง มิตเชลล์ และ แม็คคาร์ทนี่ย์ ออกจากตำแหน่งโค้ชรันนิ่งแบ็กและโค้ชปีกในตามลำดับ ขณะที่ อเล็กซ์ แวน เพลท์ ยังอยู่ภายใต้สัญญา แต่ยังไม่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของโค้ชทีมบุก เนื่องจาก บราวน์ส ยังต้องผ่านกระบวนการประเมินบทบาทของเขาอีกครั้ง
มิตเชลล์ วัย 64 ปี ทำงานโค้ชรันนิ่งแบ็กมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มงานกับ ซีแอตเทิ่ล ซีฮอร์คส์ (1999-2007), วอชิงตัน เร้ดสกิ้นส์ (2008-2009), อริโซน่า คาร์ดินาลส์ (2013-2016), นิวยอร์ค เจ็ตส์ (2017-2018) และมาทำงานกับ บราวน์ส ตั้งแต่ปี 2019
ขณะที่ สเตฟานสกี้ มารับตำแหน่งหัวหน้าโค้ชในปี 2020 และยังคงเก็บ มิตเชลล์ ไว้ต่อไปและเขามีส่วนช่วย นิค ชับบ์ ถือบอลวิ่งแตะหลัก 1,000 หลา 4 ปีติดต่อกัน ก่อนรันนิ่งแบ็กวัย 27 ปีจะเอซีแอลฉีกขาดในสัปดาห์ที่ 2 ของซีซั่น 2023
ส่วน แม็คคาร์ทนี่ย์ มาทำงานฐานะโค้ชปีกในปีเดียวกับที่ สเตฟานสกี้ มารับตำแหน่งเฮดโค้ช เขาช่วยยกระดับ เดวิด เอ็นโจกู ปีกในวัย 27 ปีทำผลงานดีสุดในอาชีพด้วยการรับบอล 81 ครั้ง ระยะ 882 หลาและทำ 6 ทัชดาวน์ โดยมีชื่อติด โพร โบวล์ ครั้งแรกในปี 2023
