ศึกยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ลิเวอร์พูล ปรับทัพบางตำแหน่งให้ ดาร์วิน นูนเญซ ลงตัวจริงในแนวรุก และได้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หายเจ็บกลับมาเป็นสำรอง 

เริ่มเกมมา 7 นาที ลิเวอร์พูล ได้จุดโทษอย่างรวดเร็ว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โดน อาสเกอร์ โซเรนเซ่น ทำฟาวล์ในเขตโทษ แม็ค อัลลิสเตอร์  รับหน้าที่ยิงเองเข้าไม่พลาด

หงส์แดง ขยับหนีเป็น 2-0 ในนาที 25 จากการเล่นโต้กลับ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ผ่านบอลให้ ดาร์วิน นูนเญซ ตั้งป้อมซัดจากหน้าเขตโทษฝั่งขวา บอลลอยเสียบใต้คานงามหยด

นาที 36 เจ้าถิ่นมีโอกาสลุ้นบ้าง ลูคัส ฮาราสลิน จ่ายบอลให้ ยาน คุชต้า ซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ว่าติดเซฟ ควีวิน เคลเลเฮอร์

ช่วงทดเจ็บ ลิเวอร์พูล ได้ประตูนำ 3-0 อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ตักบอลจากกลางสนามยาวไปหน้าเขตโทษให้ ดาร์วิน นูนเญซ ควบไปรอบอลตกได้จังหวะก่อนวอลเลย์ด้วยขวาเข้าไปอย่างสุดยอด 

ครึ่งหลังเริ่มมานาทีเดียว เจ้าถิ่นตีไข่แตกได้สำเร็จจากจังหวะเปิดบอลทางขวาของ เวลีโก้ บีร์มานเชวิช ที่ยัดเข้ากลาง คอนเนอร์ แบร็ดลี่ย์ พยายามสกัดแต่กลายเป็นหวดเข้าประตูตัวเองดื้อๆ

อีก 2 นาทีถัดมา สปาร์ต้า ปราก เกือบได้อีกลูก เวลีโก้ บีร์มานเชวิช ผ่านบอลไปให้ ลูคัส ฮาราสลิน ได้ซัดมุมแคบทางฝั่งซ้าย ควีวิน เคลเลเฮอร์ ต้องพุ่งออกไปเซฟหวุดหวิด

เจอร์เก้น คล็อปป์ เห็นท่าไม่ดีต้องส่ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ลงช่วยเกมรับโดยถอด อิบราฮิม่า โกนาเต้ ที่มีอาการบาดเจ็บด้วยออกไปพัก 

หงส์แดง มาหนีเป็น 4-1 ในนาที 53 ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ผ่านบอลให้ หลุยส์ ดิอาซ ซัดด้วยขวาในเขตโทษเข้าไปไม่พลาด 

ท้ายเกม ลิเวอร์พูล ส่งบอลตุงตาข่ายได้จากการยิงด้วยซ้ายในเขตโทษของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา แต่ว่าถูกเป่าล้ำหน้าไปเสียก่อน สกอร์จึงอยู่ที่ 4-1 เท่าเดิม

ช่วงทดเจ็บ ลิเวอร์พูล เอาประตู 5-1 จนได้จากการเลี้ยงถึงหน้าเขตโทษก่อนยิงด้วยขวาของ โดมินิค โซโบสไล ทำให้จบเกม "หงส์แดง" เก็บชัยชนะขาดลอยบุกอัด สปาร์ต้า ปราก 5-1 ทำให้มีโอกาสสูงที่จะผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศเพราะนัดสองได้กลับไปเล่นในรังแอนฟิลด์ของตัวเอง ส่วนสุดสัปดาห์นี้เตรียมเปิดศึก แมนฯ ซิตี้ ในเกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก