'โลส  กาเฟเตโรส' อุตส่าห์ไล่ตีเสมอ อังกฤษ 1-1 ในช่วงทดเจ็บเวลาปกติ ลากเกมยืดเยื้อถึงการจึงจุดโทษ ทว่าก็พ่ายไป 3-4 หยุดเส้นทางเร็วกว่าเมื่อสี่ปีก่อนซึ่งเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ 

นั่นทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าอาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือน 24 ปีก่อน เมื่อปีวันที่ 2 กรกฎาคม 1994 อันเดรส นักเตะทีมชาติ โคลอมเบีย โดนยิงเสียชีวิตที่บ้านเกิด 10 วันหลังจากทำบอลเข้าประตูตัวเองในฟุตบอลโลกที่สหรัฐฯ ส่งผลให้ตกรอบแรก

อันเดรส เอสโกบาร์ กลับบ้านไปโดนไข้โป้งเพราะสกัดบอลเข้าโกลตัวเองเมื่อ 24 ปีก่อน

หนึ่งคนที่เป็นกระบอกเสียงขอบริจาคความอาฆาตจากแฟนบอลหัวร้อนก็คือ ซานตีอาโก เอสโกบาร์ พี่ชายของ อันเดรส 

"ในฐานะพี่-น้องที่ต้องผ่านเรื่องนี้มา ผมทราบว่าในหัวของนักเตะเวลานี้คิดอย่างไรและส่วนตัวไม่อยากจะให้มีใครต้องเจอเรื่องแบบนั้น"

โดยขอกางปีกป้องเป็นพิเศษยัง การ์ลอส ซานเชซ กองกลางซึ่งทำเสียจุดโทษ-ใบแดง เกมนัดแรกรอบแบ่งกลุ่มที่แพ้ญี่ปุ่น 1-2  และนัดล่าสุดที่ทำเสียจุดโทษแบบง่ายนำมาซึ่งสกอร์เบิกร่องของ แฮร์รี่ เคน 

"การ์ลอส คงทั้งรู้สึกเสียใจที่ทำผิดพลาดและรู้สึกกลัวมากๆ ครอบครัวเขาก็ด้วย"

ซานเชซ ทำเสียโทษทั้งสองเกมที่ได้ลงสนาม

"ย้อนไปครั้งนั้น น้องของผมไม่เคยได้รับคำขู่ใดๆ พวกเขาแค่ยิงเขาตายในแบบที่ขี้ขลาดที่สุด ความจริงที่ว่าผู้คนยังพูดเรื่องนี้ในโลกออนไลน์ ยังคงสร้างความความกลัวให้กับผู้เล่นและครอบครัวพวกเขา มันยิ่งทำให้ผมเข้าใจว่าการตายของ อันเดรส ไม่ได้สร้างบทเรียนดีๆอะไรได้เลย"

"พวกนั้นเป็นชั้นต่ำที่ไม่ใช่แฟนบอล โคลอมเบีย พันธุ์แท้ ห้องขังเท่านั้นถึงเหมาะกับพวกใจแคบเช่นนี้ แต่แม้ว่าจะมีเรื่องของ อันเดรส เกิดขึ้นมากว่า 24 ปี ก็ยังไม่มีข้อกฎหมายในประเทศที่จะใช้หยุดคนพวกนี้ได้" 

อนึ่งทีมชาติ โคลอมเบีย มีกำหนดเดินทางถึงประเทศวันพฤหัสบดีที่ 5 ก.ค. โดยทางสหพันธ์ฟุตบอล โคลอมเบี่ยน ยืนยันว่าจะดูแลสวัสดิภาพขุมกำลังทั้ง 23 รายอย่างเต็มที่