เซเนกัล ที่มี 8 คะแนนจาก 4 นัด ต้องการชัยชนะเพื่อการันตีแชมป์กลุ่มและได้ตั๋วลุยรอบสุดท้ายในกลางปีหน้า ทำให้กุนซือ อาลิยู ซิสเซ่ ส่งดาวดังทั้ง ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล) ดีอาฟรา ซาโก้, ชีกู คูยาเต้ (เวสต์แฮม), เอ็มบาย เนียง (โตริโน่) และ คาลิดู คูลิบาลี่ ลงสนามครบครัน 

เกมนี้ เซเนกัล เล่นได้ดีกว่าชัดเจน และออกนำ 1-0  ในนาที 12 จากจังหวะที่ มาเน่ ได้บอลทางกราบขวา ก่อนไหลเข้าช่องให้ ดีอาฟรา ซาโก้ สอดเข้าเขตโทษแปตามน้ำตุงตาข่าย

จากนั้นสกอร์ขยับเป็น 2-0 ในนาที 38 เมื่อ มาเน่ สลัดหนีตัวประกบเข้าไปยิงติดเซฟจังหวะแรก แต่บอลเด้งมาโดนตัว ธามซานก้า เอ็มคีเซ่ ผู้เล่นแอฟริกาใต้ก่อนกระดอนเข้าประตูไปอย่างโชคร้าย กลายเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของเจ้าถิ่น และเป็นโชคดีของ เซเนกัล

ช่วงเวลาที่เหลือ เซเนกัล ครองเกมรุกได้เหนือกว่าชัดเจน แม้ไม่สามารถทำประตูได้เพิ่ม แต่ได้ชัยชนะที่ต้องการด้วยสกอร์ 2-0 ทำให้มีเพิ่มเป็น 11 คะแนนจาก 5 นัด คว้าแชมป์กลุ่มแน่นอนแล้วแม้ยังเหลือการแข่งขันอีก 1 นัดเพราะบูกิร์นาฟาโซ กับ เคป เวิร์ด มีเพียง 6 คะแนน ขณะที่แอฟริกาใต้มี 4 คะแนน ทำให้เซเนกัลกลายเป็นชาติที่ 23 ที่คว้าตั๋วสู่รอบสุดท้ายได้สำเร็จ และเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ต่อจากปี 2002 ที่เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ

สรุปล่าสุดทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 

รัสเซีย (เจ้าภาพ), บราซิล, อิหร่าน, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, เบลเยียม, เกาหลีใต้, ซาอุดิอาระเบีย, เยอรมนี, อังกฤษ, สเปน, ไนจีเรีย, คอสตาริกา, โปแลนด์, อียิปต์, ไอซ์แลนด์, เซอร์เบีย, โปรตุเกส, ฝรั่งเศส, อุรุกวัย, อาร์เจนตินา, โคลอมเบีย, ปานามา และ เซเนกัล