นิโกล่า โยกิช เซนเตอร์ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์เอ็นบีเอที่ทำ'ทริเปิ้ล-ดับเบิ้ล'ในการลงเล่นเกมเพลย์ออฟครั้งแรกนับตั้งแต่ เลอบรอน เจมส์ เคยทำได้ในปี 2006 แต่ นักเก็ตส์ ทีมอันดับ 2 ของฝั่ง เวสต์เทิร์น คอนเฟอเรนซ์ พ่ายคารังต่อ ซาน แอนโธนิโอ สเปอร์ส 96-101 ตกเป็นฝ่ายตามหลังซีรี่ส์ 0-1 เกม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 

โยกิช ทำ 10 แต้ม, 14 รีบาวน์ดกับ 14 แอสซิสต์ กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์ของเอ็นบีเอที่ทำ'ทริเปิ้ล-ดับเบิ้ล'ในการเล่นเพลย์ออฟเกมแรก โดยคนสุดท้ายที่ทำได้คือ เจมส์ ในปี 2006 

ขณะที่ แกรี่ แฮร์ริส ทำมากสุดของ นักเก็ตส์ สกอร์ 20 แต้ม, จามาล เมอร์รี่ย์ ทำ 17 คะแนน, วิลล์ บาร์ตัน สกอร์ 15 แต้มกับ 10 รีบาวน์ด ส่วน พอล มิลล์แซป ช่วยเติมอีก 12 แต้มกับ 4 รีบาวน์ด

เดอมาร์ เดอโรซาน ทำมากสุดของ สเปอร์ส สกอร์ 18 แต้ม, 12 รีบาวน์ดกับ 6 แอสซิสต์, เดอร์ริค ไวท์ ทำ 16 คะแนน ขณะที่ ไบรน์ ฟอร์บส์ สกอร์ 15 แต้มกับ 5 รีบาวน์ด ส่วน ลามาร์คัส แอลดริดจ์ ทำ 15 แต้มกับ 8 รีบาวน์ด ทีมเยือนยังมีฟอร์เวิร์ดสำรอง รูดี้ เกย์ ลงมาช่วยเติมอีก 14 แต้ม

'เราพยายามไม่ให้ โยกิช เล่นตามที่เขาต้องการและพวกเขาก็ไม่ปล่อยให้ ลามาร์คัส เล่นได้มากสุดอย่างที่เขาต้องการเช่นกัน'เกร็กก์ โพโพวิช โค้ชสเปอร์สกล่าวหลังเกม'มันเป็นสิ่งสำคัญเพราะพวกเขาเป็นทั้งผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมและพวกเขายังคงดึงดูดความสนใจอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งซีรี่ส์'

ด้าน ไมเคิ่ล มาโลน โค้ชนักเก็ตส์เปิดเผยว่า'ทุกครั้งที่เขล่นบอลจะมีใครบางคนอยู่ตรงนั้น พวกเขาจะเกาะติดเขาไม่แบบปล่อยทุกครั้ง ดังนั้นผมคิดว่า นิโกล่า มีไอคิวสูง เขาจะเลือกเล่นเพลย์ที่ถูกต้อง แต่น่าเสียดายที่เราไม่ได้ทำให้พวกเขาเล่นดับเบิ้ลทีมมากพอ'

นักเก็ตส์ ทำผลงานในเกมแรกเพลย์ออฟเมื่อคืนวันเสาร์ต่ำกว่าระดับมาตรฐาน โดยชู้ตลงเพียง 42 เปอร์เซนต์และชู้ตระยะ 3 คะแนนลงเพียง 21 เปอร์เซนต์ รวมถึงการพลาดฟรีโทรว์ถึง 8 ครั้งด้วย ส่วนเกมสองจะลงเล่นในวันอังคารนี้ที่ เป๊ปซี่ เซนเตอร์ ในเมืองเดนเวอร์เช่นเดิม