สืบเนื่องจากการที่ "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาฝ่ายเทคนิคของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่าหวังให้ผู้ใหญ่ของทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ต่างคนต่างจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนในช่วงเวลาคาบเกี่ยวมานั่งคุยกันเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม เนื่องจากทีมชาติไทยชุดยู-16 และ ยู-19 ที่ผ่านมาประสบปัญหาภายในมาตลอดคือการไม่สามารถเรียกผู้เล่นที่ดีที่สุดไปใช้งานในเกมระดับเอเอฟซี รวมถึงสภาพร่างกายค่อนข้างกรอบเพราะต้องลงแข่งขันต่อเนื่องหลายรายการทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทีมนักเรียนไทย, ฟุตบอลกรมพละ, จตุรมิตร สามัคคี, แชมป์กีฬา 7 สี, เลสเตอร์ คัพ ฯลฯ  
          ล่าสุดได้รับการเปิดเผยจาก "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ว่านี่เป็นปัญหาที่คนในวงการกีฬารับรู้มานานหลายสิบปีแล้ว แม้ว่าจะอยากแก้ไขแค่ไหนก็ไม่สามารถทำได้ เพราะอำนาจของสมาคมฯ มีน้อยเกินไปที่จะควบคุมทุกหน่วยงานให้ปฏิบัติตาม เนื่องจากประเทศไทยไม่ได้มีการออกกฎว่าการจัดแข่งชันฟุตบอลภายในประเทศต้องอยู่ภายใต้การรับรองของสมาคมเท่านั้น  
          "ผมต้องขอยอมรับเลยว่า นี่เป็นปัญหาที่ผมอยากแก้ไขมาก แต่ในฐานะของสมาคมฟุตบอล เราควบคุมได้เพียงแค่รายการที่สมาคมเป็นผู้รับรองเท่านั้นเอง ประเทศไทยไม่ได้ทำเหมือนอย่างที่อื่นที่ออกกฎว่าฟุตบอลทุกรายการต้องให้สมาคมเป็นผู้ควบคุมการจัดการแข่งขันเท่านั้น"  
          "ผมเคยคุยกับการกีฬาแห่งประเทศไทย ท่านผู้ว่า สกล วรรณพงษ์  ก็เคยมีแนวคิดกันว่าจะเชิญทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมาคุยกันเพื่อจัดไทม์ไลน์ให้ลงตัว ว่ารายการไหนควรจะจัดการแข่งขันในช่วงไหนบ้าง"
          "สมาคมฟุตบอลมีอำนาจน้อยมาก เพราะเราอยู่ภายใต้การปกครองของการกีฬาแห่งประเทศไทย ตามพรบ.กีฬา ถามว่าเราจะสั่งกกท.ได้มั้ย กกท.เองก็ยังอยู่ภายใต้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขณะที่ กระทรวงเขาก็สั่งการข้ามกระทรวงไม่ได้ จะให้เขาไปสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ก็คงไม่ได้ อย่างเราเองถ้าจะไปขอหน่วยงานอย่างกรมพละศึกษา หรือภาคเอกชน หรือที่ไหนก็ตาม เขาก็มีเหตุผลว่าเขาต้องจัดการแข่งขันเพื่อพัฒนาการกีฬาเยาวชนของชาติตามนโยบายของกฎกระทรวงเช่นกัน"  
          "ถ้าใครสามารถแก้ปัญหาได้ ก็ช่วยบอกผมทีเถิด เพราะผมยอมรับว่าจนปัญญาจริงๆ ครับ" บิ๊กอ๊อดกล่าวในที่สุด