ศาลทรัพย์สินทางปัญญา ได้มีคำพิพากษาในคดี ทป.79/2560 ที่ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) เป็นโจทก์ ได้ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และพวกเป็นจำเลย ที่ผิดสัญญาละเมิดลิขสิทธิ์ ที่ทางสยามสปอร์ตได้รับการแต่งตั้งจากสมาคมฟุตบอลฯ ในสมัยนายวรวีร์ มะกูดี เป็นนายกสมาคมฯ ให้เป็นผู้บริหารสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลภายใต้การจัดของสมาคมฟุตบอลฯ ตั้งแต่ปี 2556-2560 และปี 2561-2565 แต่ต่อมา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เข้ามาตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลภายใต้การบริหารของพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงได้บอกเลิกสัญญาการบริหารลิขสิทธิ์ถ่ายทอดที่ทางสยามสปอร์ตทำไว้กับสมาคมฟุตบอลฯ โดยที่สัญญายังไม่สิ้นสุด และทางสยามสปอร์ตเองก็ไม่ได้กระทำการใดๆดอันเป็นที่ผิดสัญญาแก่สมาคมกีฬาฟุตบอลเลย จึงได้ฟ้องร้องสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ภายใต้การบริหารของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และพวก รวมทั้งบริษัท ซีนีเพล็กซ์ จำกัด เป็นจำเลย ที่บอกเลิกสัญญาโดยมิชอบ และต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่สยามสปอร์ตในฐานะโจทก์

 

โดยคำพิพากษาของศาลได้ระบุในแนวทางนี้ว่า จำเลยคือ สมาคมฟุตบอลฯ ไม่สามารถบอกเลิกสัญญาโจทก์ คือสยามสปอร์ตโดยชอบด้วยกฎหมายได้ จึงให้ทางจำเลยต้องจ่ายชดเชยค่าเสียหายให้กับโจทก์เป็นเงิน 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้อง โดยฟ้องวันที่ 27 มิถุนายน 2560 จนถึงวันที่จำเลยที่หนึ่งจะชำระหนี้ให้โจทก์จนครบถ้วน

สำหรับคดีที่เกี่ยวพันกันที่ทางบริษัท ซีนีเพล็กซ์ จำกัด (บริษัทในเครือทรูวิชั่นส์) ได้ฟ้องเรียกเงินค่าลิขสิทธ์ถ่ายทอดสดจำนวนเงิน 240 ล้านบาทที่ทางบริษัทฯได้จ่ายเงิน 240 ล้านบาทเป็นค่าดำเนินการถ่ายทอดสดงวดแรกแก่ทางสยามสปอร์ต และไม่ได้มีการดำเนินถ่ายทอดสด เพราะทางสยามสปอร์ตถูกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯบอกเลิกสัญญานั้น ศาลได้มีคำพิพากษาให้ทางสยามสปอร์ตชำระเงิน 240 ล้านบาทคืนให้แก่บริษัท ซีนีเพล็กซ์ จำกัด พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 จนกว่าโจทก์จะชำระครบถ้วน

หลังคำพิพากษา ด้านฝ่ายกฎหมายของสยามสปอร์ต ได้ออกมาเปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณทางผู้พิพากษาที่ให้ความเป็นธรรมกับเราในการที่ถูกสมาคมฟุตบอลยกเลิกสัญญาจ่ายโดยมิชอบ อย่างไรก็ตามทางสยามสปอร์ตจะใช้สิทธิ์อุทธรณ์ในประเด็นเงินค่าเสียหายที่ทางสมาคมฟุตบอลต้องจ่ายชดเชยกับเรา ซึ่งทางเรามองว่ามีความเสียหายมากว่า 50 ล้านบาท