จังหวะนี้เกิดตั้งแต่ควอร์เตอร์แรก บอลบุกของ นิคส์ โดย โอจี อานูโนบี้ ปะทะกับ เอ็มบีด ที่ดีดตัวล้มจะเอาฟาวล์ แต่กรรมการไม่ให้ ส่งผลให้เอ็มวีพี 1 สมัยที่กองตรงพื้นหัวร้อน 

งานนี้จึงรวบขา มิตเชลล์ โรบินสัน วงใน นิวยอร์ก ที่กำลังจะโดดดังก์เป็นการระบายอารมณ์ ส่งผลให้คู่แข่งบาดเจ็บ โดยผู้ตัดสินย้อนดูภาพเหตุการณ์ย้อนหลังเป่าแค่ฟาวล์รุนแรงขั้น 1 ไม่ไล่ออก 

ผลลัพธ์ตามมาคือ โรบินสัน ออกจากการแข่งขันระหว่างพักครึ่งเวลาเพราะข้อเท้าซ้ายแพลง ซึ่งเดิมเจ้าตัวก็สภาพก้ำกึ่งว่าจะเล่นไหวไหมก่อนแข่งเพราะปัญหาที่ข้อเท้า

แน่นอนในสายตา ดิวินเชนโซ่ เห็นต่างเพราะมองว่ามันหนักถึงขั้นฟาวล์รุนแรง ขั้นสองได้ อีกทั้งการตัดสินจังหวะก่อนนั้นเขาก็ถูก คายล์ ลาวรี่ การ์ด ฟิลาเดล้ฟีย อัดใส่ฟรีๆไม่มีการเป่าลงทัณฑ์

“มันเป็นการเล่นสกปรก, สกปรกจริง” การเปิดปากผ่าน ‘อีเอสพีเอ็น’ ของสวิงแมน นิวยอร์ก

https://twitter.com/ComplexSports/status/1783648732531064994

สอดคล้องกับความเห็นของ จอช ฮาร์ต ทีมเมตที่ขัดจิตกับพฤติกรรมไม่สง่างามโดยนักกีฬาระดับเอ็มวีพี 

“เรายังพอโล่งอกที่ ‘มิตช์’ ไม่ได้บาดเจ็บรุนแรงจากเหตุการณ์ดังกล่าว” ฟอร์เวิร์ด ‘แสด-น้ำเงิน’ เสริม

“ผมเข้าใจเรื่องฟาวล์หนัก, ฟาวล์โหดในเพลย์ออฟ แต่บางครั้งพฤติกรรมที่ทำไปมันเกินเบอร์ไปหลายเท่า ดังนั้นเรายังโชคดีที่ มิตเชลล์ ไม่เจ็บหนักจากจังหวะดังกล่าว” 

ฟากเซนเตอร์วัย 30 ปีก็แถว่าทำแบบนั้นไปเพื่อป้องกันตัวเองเพราะหากย้อนไปเมื่อ ม.ค.เกมพบ โกลเด้น สเตต วอร์ริเออร์ส เขาก็นอนกองที่คอร์ตแบบเดียวกันแล้วโดน โจนาธาน คูมินก้า ฟร้อนต์คอร์ตคู่แข่งโดดขึ้นเล่นบาสฯแล้วจังหวะลงพื้นย่ำใส่จนหมอนรองเข่าเสียหายผ่านตัดหายหน้าหลายเดือน

“มันเป็นความโชคร้าย ผมไม่มีเจตนาทำร้ายใคร” เอ็มบีด พูดบ้าง 

“ผมแค่อยู่ใต้สถานการณ์ที่ต้องปกป้องตัวเอง เพราะโดนมาหลายทีที่ตอนจบไม่สวย จากหน้างานคล้ายๆจังหวะดังกล่าว” 

“ในเมื่อคู่แข่งมาท้าเล่นบาสฯแบบเน้นปะทะ เราก็ตอบโต้กลับไปได้ และเราเป็นทีมแบบนั้น” 

“ก็แรงใส่กันทั้งสองฝ่าย อย่างผมก็โดนอัดน่วมทั้งตัว ฝืนลงแข่งไป ไม่ได้โวยวายใดๆ”

เอ็มบีด พอไม่มี โรบินสัน วอแวใต้แป้นก็กด 50 แต้มมากสุดอาชีพในเพลย์ออฟ แล้วเตรียมปะทะกันอีครั้งวันอาทิตย์ (28 เม.ย.) ยังเวลล์ส ฟาร์โก เซนเตอร์ เช่นเดิม