ก่อนหน้านี้เกิเหตุการณ์แฟนบอลหญิงรายหนึ่งนาม ซาฮาร์ โคดายารี่ โดนจับกุมหน้าสนามฟุตบอลในอิหร่านจากข้อหาไม่สวม 'ฮิญาบ' ในที่สาธารณะหลังจากเธอปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อหวังเข้าไปชมเกมฟุตบอลในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้เธอถูกทางการอิหร่านตั้งข้อหาและมีกำหนดในการฟังคำพิพากษาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ โคดายารี่ ทำเรื่องที่ไม่คาดฝันเมื่อนำน้ำมันมาราดตัวเองก่อนจุดไฟเผาและเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันจันทร์ที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา

ถือเป็นเรื่องสลดในวงการฟุตบอลอีกครั้งรวมไปถึงสะท้อนให้เห็นถึงกฎหมายที่เอาเปรียบผู้หญิงในรัฐอิสลาม โดยทางการอิหร่านพยายามอธิบายว่านี่เป็นกฏหมายที่ระบุไว้ตั้งแต่ที่อิหร่านทำการปฏิวัติอิสลามในปี 1979

อย่างไรก็ตามองค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติก็ได้จับตามองสถานการณ์และเรียกร้องให้ทาง ฟีฟ่า จัดการแบนฟุตบอลอิหร่านเนื่องจากเป็นการกระทำที่ส่งผลต่อสิทธิพื้นฐานของประชาชน

ล่าสุดมีรายงานว่า ฟีฟ่า กำลังจะส่งคณะทำงาน 3 รายเข้าไปหารือกับสหพันธ์ฟุตบอลอิหร่านถึงกรณีดังกล่าว โดยหนึ่งในนั้นจะมีตัวแทนของส่วนจัดการแข่งขันและความปลอดภัย ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการกดดันทาง อิหร่าน ทางอ้อมหลังจากเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาทาง ฟีฟ่า ก็เคยออกแถลงการณ์ให้ อิหร่าน เร่งกำหนดเวลาที่ผู้หญิงจะสามารถเข้าไปชมเกมฟุตบอลได้ปกติเหมือนกับประเทศอื่นๆ 

แม้ว่ารัฐมนตรีกีฬาของอิหร่านจะประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่าจะอนุญาตให้แฟนบอลทุกเพศเข้าไปชมเกมฟุตบอลระหว่าง อิหร่าน และ กัมพูชา แต่จากการเสียชีวิตของ โคดายารี่ ส่งผลให้ ฟีฟ่า ต้องออกมากดดันอีกครั้ง รวมไปถึงขั้นตอนรักษาความปลอดภัยที่ยังเป็นที่กังวลอยู่ในตอนนี้