ยูโร 2020 

รอบคัดเลือก กลุ่ม เอ

บัลแกเรีย 0 - อังกฤษ  6

สนาม : สตาดิโอน วาซิล เลฟสกี้ 

บัลแกเรียเจ้าถิ่นส่ง อิสมาเอล อีซ่า นำแนวรุก ส่วนอังกฤษของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เปลี่ยนทีมถึง 5 ตำแหน่งจากนัดล่าสุดที่พลาดท่าแพ้ต่อ สาธารณรัฐเช็ก 1-2 แต่แนวรุกยังมี แฮร์รี่ เคน เป็นหัวหอกตัวเป้า

เริ่มเกมมาเพียง 7 นาที อังกฤษ ออกนำรวดเร็วจากจังหวะโชว์ของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ลุยถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายก่อนล็อกหาจังหวะยิงเองมุมแคบเข้าไปอย่างสุดยอด

นาที 20 อังกฤษนำ 2-0 จากการต่อบอลกันสุดสวย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทำชิ่งกับ แฮร์รี่ เคน ก่อนหลุดเข้าเขตโทษแล้วตบเข้ากลางไปให้ รอสส์ บาร์คลี่ย์ แประยะ 3 หลาง่ายๆ เข้าไป

ทัพสิงโตคำรามหนีเป็น 3-0 ในนาที 32 แฮร์รี่ เคน ได้บอลทางฝั่งขวาก่อนเปิดด้วยซ้ายสุดสวยเข้าเขตโทษ รอสส์ บาร์คลี่ย์ สอดมาโขกนิ่มๆ ระยะ 8 หลาไม่เหลือซาก เป็นประตูที่ 2 ของบาร์คลี่ย์ในนัดนี้

ทายครึ่งแรก ผู้ตัดสินเป่าเกมหยุดชั่วคราวเมื่อมีแฟนบอลเจ้าถิ่นตะโกนเหยียดผิวนักเตะอังกฤษ ผู้ตัดสินเข้าไปคุยกับกุนซือทั้งสองทีม จากนั้นกลับมาเล่นกันต่อและอังกฤษได้เพิ่มเป็น 4-0 เคน หลุเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนตวัดหักข้อกลับมาให้ สเตอร์ลิ่ง แปโล่งๆ และจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้ 

ครึ่งหลัง รูปเกมสูสีขึ้น แต่อังกฤษก็ได้ลุ้นจะแจ้งกว่า นาที 63 แรชฟอร์ด แทงบอลเข้าเขตโทษให้ เคน ดึงจังหวะแล้วยิงจ่อๆ ทว่าบอลไปตรงตัว ปลาเมน อิลิเยฟ

นาที 69 อังกฤษหนีเป็น 5-0 เมื่อ แฮร์รี่ เคน เลี้ยงบอลลุยถึงหน้าเขตโทษก่อนแทงบอลเข้าเขตโทษให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง จับหนึ่งจังหวะก่อนแปด้วยซ้ายเน้นๆ เข้าไป 

ประตูครึ่งหลังมาจนได้ในนาที 85 แฮร์รี่ เคน โชว์ทักษะแตะบอลหนีผู้เล่นบัลแกเรียเข้าเขตโทษก่อนยิงด้วยซ้ายเสาแรกเข้าไป ทำให้จบเกม อังกฤษ บุกถล่ม บัลแกเรีย ขาดลอย 6-0 โอกาสเข้ารอบสดใส 

  ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีสกอร์เพิ่มจบเกม อังกฤษ บุกชนะ บัลแกเรีย 6-0 โอกาสเข้ารอบสุดท้ายูโร 2020 สดใส

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

บัลแกเรีย : ปลาเมน อิลิเยฟ - คาเมน ฮาดซีเยฟ, จอร์จี้ ปาชอฟ, จอร์จี้ เตอร์ซิเยฟ, เปตาร์ ซาเนฟ - จอร์จี้ คอสตาดินอฟ, อิเวลิน โปปอฟ, จอร์จี้ ซามอฟ - คีริล เดสโปดอฟ, วันแดร์ซอน - อิสมาเอล อีซ่า 

อังกฤษ : จอร์แดน พิคฟอร์ด - คีแรน ทริปเปียร์, ไทโรน มิงส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, เบน ชิลเวลล์ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แฮร์รี่ วิงส์, รอสส์ บาร์คลี่ย์ - ราฮีม สเตอร์ลิง, แฮร์รี่ เคน, มาร์คัส แรชฟอร์ด 

ผู้ตัดสิน : อีวาน เบเบ็ค (โครเอเชีย)