นับตั้งแต่ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีประเดิมใช้ 'วีเออาร์' ครั้งแรกซีซั่นนี้ ก็สร้างมาตรฐานใหม่แก่การตัดสินให้ยุติธรรมมากขึ้น แม้จะมีเสียงติงมาเนืองๆเรื่องสิทธิ์ชี้ขาดสุดท้ายว่าเป็นของผู้ตัดสินในเกมนั้นๆหรือของผู้ควบคุม 'วีเออาร์' รวมถึงประเด็นการล้ำหน้าซึ่งค่อนข้างหยุมหยิม

ดราม่าเที่ยวล่าสุดเกิดในเกม คริสตัล พาเลซ แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-2 วานนี้ โดยมีสองจังหวะสำคัญที่ 'วีเออาร์' มีบทบาทคือท้ายครึ่งแรก วิลฟรีด ซาฮา กองหน้า 'ดิ อีเกิ้ลส์' วิ่งเบียดไปกับ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ กองหลัง 'ปีศาจแดง' แล้วแนวรุกเจ้าถิ่นถูกเกี่ยวล้มลงในกรอบ 18 หลา 

https://twitter.com/OptaJoe/status/1283863687195963392

ยูไนเต็ด ได้วีเออาร์ช่วยริบประตูคู่แข่ง 7 หน

มีการตรวจสอบความถูกต้องจาก 'วีเออาร์' แล้วยืนยันว่าไม่มีการทำฟาวล์ ส่งผลให้ ยูไนเต็ด ไม่เป็นฝ่ายตามหลัง จนสร้างโมเมนตัมให้พวกเขากดประตูขึ้นนำ 1-0 ช่วงทดเจ็บ 

อีกจังหวะคือนาที 55 พาเลซ ส่งบอลกองก้นตาขายโดย จอร์แดน อายิว แต่ก็โดน 'วีเออาร์' ริบคืนเพราะปลายสตั๊ดของดาวยิงกานาเลยแนวกองหลัง ยูไนเต็ด คนสุดท้าย พลาดโอกาสตีเสมอเสียได้ ซึ่งลูกนี้ถูกบันทึกให้ทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ขึ้นไปรับประโยชน์หนที่ 7 ฤดูกาล เท่ากับ เซาธ์แฮมป์ตัน และ ไบรท์ตัน สองทีมท้ายตาราง 

ส่วนทีมรองๆลงมาที่รับประโยชน์ 'วีเออาร์' ยึดประตูคู่แข่งได้แก่ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ( 6 ครั้ง), ลิเวอร์พูล, เบิร์นลี่ย์ กับ เวสต์แฮม ( 4 ครั้ง) และ เลสเตอร์ ( 3 ครั้ง)