มอยส์ ถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผจก.ทีม 'ปีศาจแดง' ดึงตัวมาจาก เอฟเวอร์ตัน ฐานะคนสกอตต์เหมือนกัน ทั้งแววดีช่วงคุม'ทอฟฟี่สีน้ำเงิน' ระหว่างปี 2002-2013 ให้รับหน้าที่ทายาทในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด 

อย่างไรก็ตามภาระอันหนักอึ้งที่รับไม้ผลัดมาจาก 'เฟอร์กี้' ส่งผลต่อฟอร์มของทีมชนะแค่ 27 จาก 51 นัดทุกรายการ (เสมอ 9, แพ้ 15) โดนแฟนบอล, ศิษย์เก่ารุมด่าว่ามือไม่ถึงกระทั่งถูกไล่ออก เม.ย.2014 

จากนั้นเส้นทางก็พเนจรไปเรื่อยคุม เรอัล โซเซียดาด, ซันเดอร์แลนด์, เวสต์แฮม คำรบแรกถถึง พ.ค.2018 แล้วว่างงานอีกกว่า 18 เดือนจนคิดว่าหมดอนาคตในวงการก่อน 'ขุนค้อน' จ้างคุมคำรบสอง ธ.ค.2019 

ซึ่งกุนซือสกอตติชบ่นน้อยใจบอร์ด 'ปีศาจแดง' ว่าทีผลงานตั้งไข่ของ โซลชา ก็ตุปัดตุเป๋พอๆกัน แต่ไหงกลับทุ่มงบประมาณเสริมไม่ยั้ง ต่างจากเขาให้สู้ตามมีตามเกิด 

"ที่นั่นคือสโมสรอันยอดเยี่ยม หากมีวาสนาได้ร่วมงานก็นับว่าโก้แล้ว ในความเห็นผมมองว่าคือทีมซึ่งยิ่งใหญ่สุดของโลก ทุกครั้งทีคุมทีมไปแข่งฐานะคู่แข่งยังคงรู้สึกพิเศษหนนี้ก็ตื่นเต้นจะได้กลับไป" กุนซือวัย 57 ปี เปิดปาก

https://twitter.com/ManUtdMEN/status/1285849562276597760

มอยส์น้อยใจไม่ใช่คนโปรด

"พูดถึง โอเล่ ก็เผชิญการเริ่มต้นที่ยากลำบากเหมือนกัน แต่ความแตกต่างระหว่างหมอนั่นกับผม คือสโมสรดันให้เวลาเขาเสียนี่" 

"โซลชา พยายามปั้นเด็กจากอะคาเดมี่ ซึ่งเป็นแหล่งขุมทรัพย์ของ ยูไนเต็ด กระทั่งตอนนี้สามารถผลักดันแข้งหนุ่มหลายรายข้นมาแจ้งเกิดสำเร็จ"  

สถิติระบุว่า 34 เกมแรกในลีกที่ มอยส์ คุมนั้นผลงานชนะ 17, เสมอ 6 และแพ้ 11 ยิงได้ 56 สกอร์และเสีย 40 เม็ด เปอร์เซนต์ชนะ 50 

ด้าน โซลชา ผลงานชนะ 16, เสมอ 9 และแพ้ 9 ยิงได้ 55 สกอร์และเสีย 40 เม็ด เปอร์เซนต์ชนะ 47.06