แมนฯ ซิตี้

    มีเพียงหนึ่งจาก 29 ทีมก่อนหน้านี้ที่เอาชนะอีเอฟแอล คัพ รอบตัดเชือก นัดแรก ด้วยสกอร์ห่าง 2 ประตูแล้วพลิกตกรอบก็คือ ทรานเมียร์ ที่พบ แอสตัน วิลล่า ในปี 1993-94 (นัดแรก 3-1, นัดสอง 1-3 แพ้จุดโทษ 4-5)

    เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวสแปนิชไม่แน่ว่าจะใช้งาน เอมเมอริก ลาปอร์กต์ ได้หรือไม่ โดยเจ้าตัวลงเล่นไป 75 นาทีในเกมพบ เชฟฯ ยูไนเต็ด หลังเจ็บเข่าพักยาวไปเกือบ 5 เดือน แต่ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมในนัดพบ ฟูแล่ม ในเอฟเอ คัพ

    ส่วนตำแหน่งผู้รักษาประตูจะเป็น เคลาดิโอ บราโว่ ที่ลงเล่นบอลถ้วยในประเทศมาทุกรายการในซีซั่นได้ออกสตาร์ทตัวจริง แต่ ลีรอย ซาเน่ (เข่า) ก็ยังชวดเหมือนเดิม

    แมนฯ ยูไนเต็ด

    ผีแดงผ่านเข้ารอบได้ 2 จาก 3 ครั้งหลังสุดที่เล่นรอบน็อคเอาต์ด้วยสถานการณ์แพ้มาก่อนในนัดแรกแบบสกอร์ห่าง 2 ประตู โดยพวกเขาเขี่ย โอลิมเปียกอส และ เปแอสเช ในแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม ในปี 2013-14 และ 2018-19 ตามลำดับ

    โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์ยังต้องรอเช็กฟิต เนมานย่า มาติช ในการมาเยือนเอติฮัด สเตเดี้ยม หลังจากมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยมาจากเกมถล่ม ทรานเมียร์ 6-0 ซึ่งเกมนั้น ดาบิด เด เคอา และ อารอน วาน-บิสซาก้า ได้พัก

    ในรายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด, ปอล ป็อกบา และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ยังคงชวดเหมือนเดิม เช่นเดียวกับ มาร์กอส โรโฮ และ อักเซล ตวนเซเบ้ ขณะที่ ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ นั้นกำลังฟื้นฟูระดับความฟิต

    11 ตัวจริงตามคาด

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เคลาดิโอ บราโว่ - ไคล์ วอล์คเกอร์, แฟร์นันดินโญ่, เอมเมอริก ลาปอร์กต์, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ - เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้ เอร์นานเดซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา - ริยาด มาห์เรซ, เซร์คิโอ อเกวโร่, ราฮีม สเตอร์ลิง

    แมนฯ ยูไนเต็ด (5-3-2) : ดาบิด เด เคอา - อารอน วาน บิสซาก้า, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, เอริก ไบยี่, แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ - เจสซี่ ลินการ์ด, เนมานย่า มาติช, เฟร็ด - เมสัน กรีนวู้ด, อองโตนี่ มาร์กซิยาล

    ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์

    แมนฯ ซิตี้ ยังคงต้องเน้นอยู่เหมือนเดิมแน่ แต่เกมนี้ก็คงไม่ง่ายเหมือนกับนัดแรกแน่ เนื่องจากแรงจูงใจของ แมนฯ ยูไนเต็ด คงเพิ่มขึ้นด้วยสถานการณ์หลังพิงฝา แม้ด้วยคุณภาพบวกกับการเฝ้ารังแล้วเจ้าถิ่นจะดีพอเอาชนะได้ ทว่าอาจยิงไม่ทะลุเรต

    ผลที่คาด

    แมนฯ ซิตี้ ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1